โจ๋ทะลุถุงทยอยมอบตัว อ้าง แค่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจาร พยานสาว ใบเฟิร์น ขอโทษผู้เสียหาย พร้อมยอมรับผิดสิ่งที่ทำลงไป
จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ 21 พฤศจิกายน 2567 ครอบครัวเข้าร้องกับ กัน จอมพลัง หลังลูกสาวโดนเพื่อนในวัยเดียวกัน หลอกไปรุมทำร้ายร่างกายมีบาดแผลตามร่างกาย ซ้ำยังบังคับให้ถอดเสื้อผ้า และถ่ายคลิปอนาจาร ต่อหน้ากลุ่ใวัยรุ่นผู้ชายหลายคน สร้างความสะเทือนใจ และอับอายเป็นอย่างมาก และยังข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ หากไม่ฟังจะปล่อยคลิปอนาจาร เป็นการแบล็คเมล์นั้น
ล่าสุดตลอดช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองพากลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และกระทำอนาจารเยาวชนหญิงอายุ 18 ปี และ 15 ปี ที่เมื่อวานนี้ กัน จอมพลัง ได้พามาร้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางมดให้ช่วยดำเนินคดี ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามามอบตัวในวันนี้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มวัยรุ่นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเยาวชนชายที่ชื่อว่า ฟิล์ม พยายามเดินหนี และปฏิเสธไม่รู้เห็นเหตุการณ์ และแสดงท่าทีไม่พอใจเมื่อถูกผู้สื่อข่าวรุมสอบถาม และหลุดคำหยาบออกมา และอ้างเป็นว่าอยู่ในเหตุการณ์ เพราะบ้านอยู่จุดนั้นเฉย ๆ ไม่มีส่วนรู้เห็นอะไร

ต่อจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงสอบถามผู้ปกครองของเยาวชนชายที่ชื่อว่า ฟิล์ม ซึ่งเป็นย่าบอกว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ได้ยินเสียงร้องเอ๊ะอะโวยวาย แต่กำลังอาบน้ำให้หลานอยู่ ก่อนที่จะมีคนตะโกนถามว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองจึงไม่ได้ออกไปดูเหตุการณ์แต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วตนเองจึงสอบถามหลานชายก็บอกเป็นเพียงกลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่อยู่นอกพื้นที่เข้ามามีเรื่องมีราวบริเวณข้างบ้านเท่านั้น และหลานชายตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ซึ่งก่อนหน้านี้มาให้ปากคำกับตำรวจไปแล้ว และวันนี้ตำรวจเรียกตัวมาอีกจึงพาหลานชายเข้ามา และที่หลานชายพูดจาหยาบคายออกไปกับนักข่าวนั้น เป็นเพราะว่าหลานชายไม่พอใจพ่อตนเองที่หาห้องสืบสวนไม่เจอ ไม่ได้ด่าผู้สื่อข่าว และปกติหลานชายก็จะเป็นคนพูดจาในลักษณะนี้เป็นประจำ

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้นพ่อของ ฟิล์ม ก็ตะโกนเรียกย่าของ ฟิล์ม ให้ออกจากวงสัมภาษณ์ด้วยท่าทีไม่พอใจ ก่อนที่จะดึงตัวเข้าไปในห้องสืบสวน ขณะที่ช่วง 11:00 น. ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง พร้อมด้วย นางสาวใบเฟิร์น หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ เดินทางมายัง สน.บางมด เพื่อมาแสดงตัวให้การในฐานะพยานฝั่งผู้เสียหาย
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่าเมื่อคืนนี้ได้รับข้อมูล และได้รับการติดต่อจากคนที่เคยตกเป็นเหยื่อของ แก๊งโจ๋ทะลุถุงกลุ่มนี้ ว่าสร้างวีรกรรมไว้หลายต่อหลายครั้ง และหนึ่งในนั้นที่มาให้ข้อมูลกับตนเองคือ นางสาวใบเฟิร์น หนึ่งในผู้ก่อเหตุกลับใจขอมาเป็นพยานให้กับผู้เสียหาย

เนื่องจากตนเองเคยถูกกระทำมาเช่นกัน ซึ่งพยานรู้สึกผิด และขอออกมาเล่าความจริง ซึ่งฝั่งผู้ก่อเหตุมีการวางแผนในการให้การ มีการเตี้ยมกันเป็นอย่างดี ว่าจะให้ใครรับผิดส่วนไหน ในส่วนของด่านักข่าว ตนเองมองว่าไม่สมควร อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนเองจะประสานทาง ผกก.สน.บางมด ให้เร่งรัดดำเนินคดีกลุ่มผู้เสียหาย หากเข้ากฎหมายข้อไหน ก็จะใฟ้ดำเนินการให้ถึงที่สุด และจะให้ทางท่าน ผกก.สน.บางมด ตรวจสอบด้วยว่า ผู้ก่อเหตุคนไหนรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ส่วนพฤติกรรมที่ ด่านักข่าวด้วยถ้อยคำหยาบคายนั้นตนเองก็อยากจะ บอกว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีทำกับผู้สื่อข่าวที่เป็นผู้หญิงซึ่งวันนี้ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและจะขย้ำให้จมเขี้ยว
นางสาวใบเฟิร์น บอกว่า ตอนเกิดเรื่องนั้นตนเองกับกลุ่มผู้เสียหายนั้นเป็นเพื่อนในวิทยาลัยเดียวกัน และด้วยความที่ตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อน นางสาวน้ำมนต์ หัวโจกของกลุ่มจึงมาบอกว่าผู้เสียหายนินทาตนเองลับหลังซึ่งตอนนั้น ยอมรับว่าตนเองไม่ได้ถามผู้เสียหายก่อน จึงหลงเชื่อ นางสาวน้ำมนต์ ก่อนที่นางสาวน้ำมนต์และกลุ่มเพื่อนจึงร่วมกันวางแผนล่อหลวงผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกายที่ป่ารกทึบข้างบ้านของนายฟิล์ม

ซึ่งในฟิล์มเองก็บอกว่าให้มาใช้สถานที่ได้เลยเพราะว่าจุดนั้นเป็นสถานที่เทรนรุ่นน้อง หรือเป็นสถานที่รับน้อง ของสถาบัน ซึ่งเมื่อสองผู้เสียหายมาก็เป็นไปตามที่ผู้เสียหายเล่า เมื่อวานนี้เลยและตัวเธอเองนั้นพยายามปิดไฟฉายโทรศัพท์เนื่องจากมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่คนถามแต่ตนเองก็ถูกนางสาวน้ำมนต์ด่าให้เปิดไฟฉายโทรศัพท์ส่อง ตัวผู้เสียหาย และบังคับให้ถอดเสื้อผ้าถ่ายคลิป

หลังเกิดเหตุ เธอได้ส่งข้อความไปด่าผู้เสียหายอีกครั้ง แต่หลังจากพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็มาทราบว่าผู้เสียหายไม่ได้มีการพาดพิงถึงเธอ และเป็นการเข้าใจผิด จึงได้แสดงความเสียใจ และขอโทษไปแล้ว ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดจากการยุยงปั่นประสาทของ นางสาวน้ำมนต์ เพียงคนเดียว วันนี้ตนต้องการมาให้ข้อมูลกับกัน จอมพลัง และแสดงความขอโทษกับครอบครัวผู้เสีย ว่ารู้สึกผิดจริง และพร้อมขอโทษหากจะถูกดำเนินคดีก็ต้องยอมรับความจริง