รถพ่วงนรก สุดประมาทรู้ว่าลมเบรกเหลือน้อยแต่ฝืนขับสุท้าย เบรกแตกพุ่งชนรถยนต์ 6 คันรวด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสาหัส 2 ราย
23 ก.ย. 63 เมื่อเวลา 06.20 น. ร.ต.อ.วันชาติ เหล่ากอปิกิจ รอง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนรถยนต์ 6 คัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณสามแยกการไฟฟ้ามีนบุรี ถ.สุวินทวงศ์ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพ จึงเร่งประสานอุปกรณ์ตัดถ่างมูลนิธิร่มไทร เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถกึ่งพ่วง 18 ล้อ สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ส่วนหัว 91-7153 กรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียน ส่วนกึ่งพ่วง 65-2892 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท นำเฮง โลจิสติกส์ สภาพส่วนหัวลากเกยทับหลังคา รถยนต์โตโยต้า โคโรน่าสีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน ญญ2780 กรุงเทพมหานคร พังยับทั้งคัน โดยภายในฝั่งเบาะคนขับมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างซากรถจึงสามารถนำร่างออกมาได้ ทราบชื่อต่อมา คือ นายอานัส จิ๊เลาะ อายุ 27 ปี นอกจากนี้พบผู้บาดเจ็บ คือ นายประเสริฐ จิ๊เลาะ อายุ 52 ปี บิดา น.ส.อัมพร จิ๊เลาะ อายุ 52 ปี มารดา เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.นพรัตน์ 9

นอกจากนี้รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายอีก 5 คัน ประกอบด้วย รถเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 6กร 1150 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว 3กถ3244 กรุงเทพมหานคร , รถยนต์มาสด้า2 สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน 5กศ2338 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีขาว กว502 กรุงเทพมหานคร และ รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ตค4283 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 7 คัน
ด้านนายสหพล ทองโพธิ์แก้ว อายุ 27 ปี คนขับรถมาสด้า2 ให้การว่า ขณะเดินทางออกมาจากบ้านพักพร้อมภรรยาและลูก มาที่เส้นทางดังกล่าว เห็นรถกึ่งพ่วง จอดเสียอยู่เลนส์กลาง จึงเบี่ยงขวาเพื่อแซงรถพ่วง ก่อนขับเข้าซ้ายเพื่อรอสัญญาณไฟจราจร ไม่กี่วินาที รถพ่วงก็ขับพุ่งชนรถที่จอดด้านหน้าปัดไปปัดมา เหมือนคุมรถไม่อยู่ ก่อนพุ่งปีนขึ้นทับรถยนต์โตโยต้าโคโรร่า ของผู้เสียชีวิต และชนท้ายรถสิบล้อที่จอดด้านหน้าสุด เหตุการณ์จึงสงบ ส่วนรถสิบล้อคันดังกล่าวได้ขับออกจากที่เกิดเหตุไปในเวลาต่อมา

ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายเพียร ศรีเจริญ อายุ 41 ปี คนขับรถพ่วงที่ก่อเหตุ ให้การว่า ขับรถจากจ.สระบุรีเพื่อมาส่งหินที่ ซ.สุวินทวงศ์ 18 หลังจากนั้นกำลังขับรถกลับ แต่ลมเบรคตัวลูกหมด ในขณะที่เบรคตัวแม่ซึ่งเป็นระบบน้ำมันแตก จึงจอดรถและลงมาดูพบว่าลมเบรคเหลือ 6 เปอร์เซ็นต์ ก่อนตัดสินใจขับรถต่อ แต่ไม่สามารถควบคุมรถได้ และพุ่งชนจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำพยานและคนขับรถพ่วง ก่อนแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
