พี่สาวยืนยัน น้องสาวถูก ดนุสรณ์ อดีตสามีทำร้ายนานกว่า 5 ปี ฝ่ายชายไม่เคยส่งเงินเลี้ยงดูลูก และเคยขู่ฆ่าพ่อ-แม่ฝ่ายหญิง
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายยิงอดีตภรรยาเสียชีวิตภายในคลินิคแห่งหนึ่งของห้างสรรพสินค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย
ล่าสุด 19 ก.พ. 63 พลตำรวจตรีสุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางยังสน.พญาไท เพื่อสอบปากคำนายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนางสาวปิยานุช ฉัตรไทย เสียชีวิตในคลินิคเสริมความงามแห่งหนึ่ง ในห้างย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความหึงหวง และตอนนี้ผู้ต้องหาก็คลายความกังวลลงบ้างแล้ว

ทั้งนี้นายดนุสรณ์ ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาพร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .45, เครื่องกระสุน 32 นัด ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง โดยหลังก่อเหตุนายดนุสรณ์ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ซอยหมอเหล็ง ก่อนหลบหนีไปที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านญาติ กระทั่งถูกตำรวจปิดล้อมจับกุม โดยมีแม่ของนายดนุสรณ์เข้าร่วมเกลี้ยกล่อม หลังผู้ต้องหาขู่ยิงตัวเอง ใช้เวลานับ 10 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้
อย่างไรก็ตาม นายนุสรณ์ ถูกดำเนินคดีใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, 4.พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, 5. ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
ขณะเดียวกันจากการสอบถามพี่สาวผู้ตาย ที่เดินทางมายังสน.พญาไท เพื่อให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม รวมถึงทำเรื่องขอรับศพ ทราบว่า ได้ติดต่อกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงหลังปีใหม่ หลังน้องสาวต้องการหย่ากับฝ่ายชาย เพราะตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา น้องสาวก็ถูกทำร้ายร่างกายจนตัวช้ำไปทำงานตลอด รวมถึงฝ่ายชายไม่เคยส่งเงินเลี้ยงดูลูก ซึ่งน้องสาวเคยไปแจ้งความเรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยวมาแล้ว อีกทั้งนายดนุสรณ์ยังเคยโทรศัพท์มาขู่ฆ่าพ่อแม่ฝ่ายหญิงด้วย
อ่านข่าว Bright Today