ลายพรางสุดโหด! จับสิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ปมฉุนแซวสาว

โหดเหี้ยม ตร.รวบ สิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ก่อนหิ้วป่าละเมาะ ใกล้ดอยสุเทพ เตรียมเร่งล่าผู้ต้องหาอีก 2 คน

วันนี้ 26 เม.ย. 67 ตำรวจนำโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ได้พาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่หอพักในตำบลอุโมงค์ จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่คนร้ายไปทำร้ายร่างกายนายจ่อมวัน หนุ่มไทใหญ่จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมีชาวบ้านมาร่วมดูการทำแผนด้วย หลังจากทำแผนเสร็จสิ้นแล้วชาวบ้านต่างปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็วและสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านละแวกนั้นกลับคืนมาได้

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 00.53 น. สาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาท ซึ่งทั้งหมดรู้จักกันดีและกินเหล้าด้วยกันมาก่อน เที่ยวด้วยกันและก็ทะเลาะกันจนมาก่อเหตุ ซึ่งพบว่ามีการท้าทายกันในแอพพลิเคชั่น LINE ด้วย ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดบันดาลโทสะ และสั่งการให้ลูกน้องไปทำร้ายร่างกาย แต่คาดว่าได้มาถึงความตายบนรถกระบะที่ลากตัวเลยจ๋อมวันผู้เสียชีวิตขึ้นรถมาแล้ว ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งที่ อำเภอแม่ริมเชียงใหม่

จากนั้นวันที่ 23 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. ตำรวจ สภ.แม่ริมได้รับแจ้งว่าพบศพชายไม่ทราบชื่อ-สกุล บริเวณป่าข้างทางเลยปากทางเข้าน้ำตกแม่สา ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นนายจ๋อมวัน ลุงตี้ ที่หายตัวไปจากหอพักพื้นที่จังหวัดลำพูน จากการชันสูตรพบมีรอยบาดแผลจากการถูกของแข็งทุบอย่างแรงที่บริเวณศรีษะ และมีเลือดออกจำนวนมาก

โดยที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน พลตำรวจตรี ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 , พลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และพลตำรวจตรี บุณยวัต เกิดกล่ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ร่วมกันสอบสวนนายอุ่น ลุงฮ่อง หรือต้า ผู้รับเหมารายย่อย ชาวไทใหญ่วัย 45 ปี หัวหน้ากลุ่มคนร้าย พร้อมกับนายวู้นีเลี่ยง ลูกน้องที่เป็นผู้ใช้ค้อนทุบหัวนายจ๋อมวัน หนุ่มชาวไทใหญ่จนเสียชีวิต ที่ สภ.เมือง ลำพูน โดยจากการสอบสวนพลตำรวจตรี ธวัชชัย ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

ข่าวเชียงใหม่-min

จากกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการวางแผนมาทำร้ายร่างกายอย่างแน่นอนเพราะมีการเตรียมค้อนและเชือกมาเป็นอย่างดี ส่วนต้องการจะวางแผนมาฆ่าเลยหรือไม่ต้องดูเจตนาอีกที แต่ปฎิเสธไม่ได้ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย และถึงแก่ชีวิตแน่นอน เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่เกิดการทะเลาะวิวาทกันเปิดภาพรวมนั้นการดูแลกลุ่มแรงงานต่างด้าวและคนไทยทั้งเชียงใหม่และลำพูนยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

สำหรับความผิดถือว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดมีความผิดร่วมกันในทางเดียวกันในฐานเดียวกัน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งล้อมจับผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย โดยมั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศไทยยังไม่ได้ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

ข่าวเชียงใหม่-ตำรวจทำร้ายร่างกายคนไทยใหญ่-min
ข่าวเชียงใหม่-จับตำรวจภูธร-min

โดยระหว่างที่ทำแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบจังหวัดลำพูนเชียงใหม่และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค5นำตัวผู้ต้องหาสองราย ร่วมกันทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันทีที่ไปถึงสถานที่เกิดเหตุ ชาวบ้านได้มาดูโฉมหน้าคนร้ายพร้อมกับยืนในจุดที่เจ้าหน้าที่กันไว้ห่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำรถแคปกระบะโตโยต้าไทเกอร์คันก่อเหตุมาประกอบแผนในครั้งนี้ด้วย เริ่มจากนายต้าขับรถมาจอดที่หน้า หอพัก จากนั้นได้สั่งการให้ลูกน้องหยิบค้อนปอนไปเปิดประตูหอพักของนายจ๋อมวันและทำการตีหัวด้วยค้อนปอนด์ ซึ่งนายวู้นีเลี่ยง ลูกน้อง ทำแผนว่าได้ตีที่หัวนายจ่อมวันไปหนึ่งครั้งก่อนที่คนอื่นจะร่วมตีซ้ำและลากตัวนายจ่อมวันออกจากห้องไปขึ้นรถกระบะ โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่พาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถไปทำแผนที่อำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ต่อชาวบ้านต่างตบมือด้วยความดีใจที่จากนี้จะอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขเหมือนเดิมเพราะก่อนหน้านี้เกิดความหวัดระแวงเป็นอย่างมากนอนไม่หลับตั้งแต่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยจับตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

โดยจุดที่ 2 ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้นำตัว นายอุ่นลุงอ่อง อายุ 45 ปี สัญชาติเมียนมา อยู่บ้านเลขที่ 18 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และนายวู้นีเลี่ยงิสัญชาติเมียนมาร์ มาทำแผนประกอบรับคำสารภาพบริเวณจุดที่นำศพของินายจ๋อทวัน ลุงติ๊ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/ส หมู่ที่ 7 ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นรถยนต์กระบะและนำมาทิ้งในป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โค้งสลิงบริเวณกิโลเมตรที่ 6 เส้นทางแม่ริม – สะเมิง หมู่ที่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยอธิบายขั้นตอนตั้งแต่เอารถมาจอดกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า แคป สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน ยค 7347 เชียงใหม่ นำมาจอดริมถนน โดยมีนายอุ่นลุงอ่อง เป็นคนขับ และนายวู้นีเลี่ยง นั่งอยู่กับศพผู้ตายด้านท้ายกระบะ จากนั้นได้ช่วยกันทำการมัดมือมัดเท้า ก่อนจะช่วยกันลากศพเข้าไปทิ้งในป่าข้างทาง สาเหตุที่นำมาทิ้งในจุดดังกล่าวเพราะเป็นช่วงกลางคืนและค่อนข้างมืด หลังจากชี้จุดที่นำมาทิ้งแล้ว ได้เดินขึ้นไปอีกเล็กน้อย ก่อนจะนำฆ้อนที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 2 อันไปโยนทิ้ง ก่อนจะพากันหลบหนีไป

ข่าวเชียงใหม่-ตำรวจทำร้ายร่างกายคนไทยใหญ่-min-1
ข่าวเชียงใหม่-จับตำรวจภูธร-min-1

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

“หมอช้าง” ชี้ 2 ราศี เป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่มักโดนคนไม่เกรงใจ!

หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เผย ดวงชะตา 2 ราศี เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ยอมได้ก็ยอม จนโดนเอาเปรียบ!

เอาแล้ว! น้องใหม่ “BOYNEXTDOOR” เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น

น้องใหม่สุดฮอต BOYNEXTDOOR จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นในวันที่ 10 กรกฎาคม 2024 ด้วยซิงเกิลแรกที่ชื่อว่า ‘AND’

ลิเดีย-แมทธิว อัปเดตความคืบหน้า! หลังถูกโจรขโมยมอเตอร์ไซค์

ลิเดีย ศรัณย์รัชต์-แมทธิว ดีน ออกมาอัปเดตความคืบหน้า! หลังถูกโจรใจบาป ขโมยมอเตอร์ไซค์ถึงค่ายมวย เชื่อเป็นโจรมืออาชีพ

จับแล้ว! หนุ่มจี้ชิงเบนซ์สาวในห้างดัง ที่แท้ตีเนียนแอบหลังรถ

หนีไม่รอด! ตำรวจรวบโจรจี้สาว ก่อนแทงแก้มชิงเบนซ์ ที่ห้างดังย่านรังสิต ที่แท้ตีเนียนแอบอยู่หลังรถนานหลายชม.

อุกอาจกลางดึก! คนร้ายวางบอมบ์จยย.กลางเมืองนรา เจ็บ 4 ราย

คนร้ายใช้จักรยานยนต์ลอบบอมบ์ วางระเบิดหน้าท่าพระยาสาย จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่เจ็บ 2 หญิงชาวบ้านโดนลูกหลง 2 คน

บอยแบนด์ “E’LAST” กลับมาปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก ‘EVERLASTING’

บอยแบนด์ E’LAST ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรก “EVERLASTING” หลังจากทำงานหนักมา 4 ปี เพื่อที่รอวันเฉิดฉายอีกครั้งใน K-POP
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า