ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุกผู้ต้องหา 7 คน เป็นเวลา 12-19 ปี ปม รุมฆ่าชายพิการขายขนมปัง ด้านญาติพอใจผลพิพากษาแล้วจึงไม่ขอยื่นฎีกาต่อ
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกผู้ต้องหา 7 คนเป็นเวลา 12-19 ปี จากการรุมทำร้ายและฆ่าชายพิการขายขนมปังย่านโชคชัย 4 ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ และนางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ร่วม
ยื่นฟ้องนายพีรพล ยศพงศ์อนันต์ อายุ 23 ปี นายอัครเดช ทัศนะ อายุ 24 ปี นายมนต์มนัส แสงโพธิ์ อายุ 23 ปี นายจตุพร จันทร์โสภา อายุ 20 ปี นายเมฆ พลไกรษร อายุ 21 ปี นายอรินทร์ ยศพงศ์อนันต์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ณัฐณิชา ฤทธิ์ล้ำเลิศ อายุ 20 ปี เป็นจำเลยที่ 1-7 ใน
ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านพักของ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการขายขนมปังร้านปังหอม ในซอยโชคชัย 4 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. โดยใช้อาวุธมีดและก้อนอิฐทำร้าย นายสมเกียรติ จนถึงแก่ความตาย
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 จำคุกจำเลยทั้ง 7 คน ตั้งแต่ 12-19 ปี และให้ชดใช้แก่โจทก์ร่วม ทั้งค่าไร้อุปการะ ค่าปลงศพ เป็นเงิน 1 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยมีความผิดชัดเจน
แม้จำเลยขออุทธรณ์ให้ศาลลงโทษในสถานเบา เนื่องจากยังเป็นเยาวชนที่มีอายุ 18-22 ปี และไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ศาลเห็นว่าจากพฤติการณ์ที่ร่วมกันก่อเหตุ ในลักษณะเป็นพวกกัน เป็นกำลังใจให้ฮึกเหิม รุมทำร้ายผู้ตายที่อวัยวะสำคัญ ตำรวจมาก็ไม่หยุด
ขณะที่ผู้ตายต่อสู้เพื่อป้องกันชีวิต มีประจักษ์พยานหลายปาก ก็เห็นควรจะต้องลงโทษให้เหมาะสม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นทั้งหมด
ทางด้าน นายเมธัส ผลประเสริฐ หลานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จะไม่ยื่นฎีกาคดีเพราะพอใจผลคำพิพากษาแล้ว และฝากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะแม้ว่าผู้กระทำความผิดจะเป็นเยาวชน แต่หากร่วมกันกระทำความผิดชัดเจน ศาลก็เห็นว่าสมควรลงโทษในสถานหนัก และกล่าวว่าเหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ที่ร้านก็ยังขายขนมปังอยู่เช่นเดิม