พ่อร้องศูนย์คนหายและมูลนิธิกระจกเงา ลูกสาวหาย ตัวไร้ร่องรอยนานกว่า 6 ปี หลังหางานทำที่แหลมฉบัง พบเบาะแสเป็นรถปาเจโร่รับตัวไป
7 ก.ย. 62 ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บังคับการกองทะเบียนประวัติอาชญากร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(คบคน.ตร.) พร้อมด้วย มูลนิธิกระจกเงา ได้นำนายวิโรจน์ กอไธสง อายุ 56 ปี พร้อมญาติพี่น้อง ตำบลปะเคียบ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าติดตามคดีการหายตัวของ นางสาวภาวิณี กอไธสง หรือเก๋ อายุ 23 ปี เมื่อช่วงปี 2556 ในพื้นที่ สภ.แหลมฉบัง โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน ผกก.สภ.แหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้การต้อนรับ
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวิโรจน์ กอไธสง อายุ 56 ปี ได้ร้องทุกข์มายังมูลนิธิกระจกเงาว่า บุตรสาวของตน ชื่อ นางสาวภาวิณี กอไธสง หรือเก๋ อายุ 23 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2556 หลังรับปริญญาแล้วไปเช่าห้องพักหางานทำที่แหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากนั้นขาดการติดต่อกับครอบครัวไป จนนายวิโรจน์ลงไปตามหาที่ห้องเช่า จึงทราบว่าบุตรสาวไม่อยู่ห้องนานนับเดือน สภาพห้องพักยังมีข้าวของและเอกสารสำคัญที่เตรียมไปสมัครงานของบุตรสาวอยู่ครบถ้วน
ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ประมาณเดือนพฤษภาคม 2556 บุตรสาวเพิ่งรับปริญญา จากนั้นไปหางานทำที่แหลมฉบัง ชลบุรี เพราะมีญาติอยู่ที่นั่น ปกติลูกสาวจะโทรมาหาอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่ช่วงเดือนมิถุนายน ติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย พอลงไปตามหาก็พบว่าลูกสาวหายตัวไปจากห้องเช่า โดยที่ไม่ได้เก็บข้าวของและเอกสารสำคัญไป สอบถามจากเพื่อนและคนรู้จักก็ไม่มีใครทราบ เกรงว่าบุตรสาวจะถูกหลอกไปทำงานหรือถูกค้ามนุษย์ เพราะตอนนั้นลูกสาวไปโพสข้อมูลหางานทำในอินเตอร์เน็ทด้วย
โดยลำดับเหตุการณ์ก่อนนางสาวภาวิณีหรือน้องเก๋หายตัวไป จากเพื่อนสนิทซึ่งเรียนมัธยมมาด้วยกันที่บุรีรัมย์ และทำงานอยู่ที่แหลมฉบัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม น้องเก๋ได้โทรมาขอให้ช่วยขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯ โดยบอกว่ามีธุระ จะขอติดรถพี่ที่เคยทำงานโรงงานเดียวกันไปกรุงเทพฯ เพื่อนคนดังกล่าวจึงได้มารับน้องเก๋ที่หอพักย่านตลาดบ้านทุ่ง ไปส่งริมถนนปากทางถนนพระพรหมกับถนนทางหลวงหมายเลข 7 ระยะทางจากหอพักมาจุดดังกล่าวประมาณ 10 กม. มีรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ มาจอดรอรับอยู่ก่อนแล้ว โดยเพื่อนไม่เห็นคนบนรถ หลังน้องเก๋ขึ้นรถ รถคันดังกล่าว มุ่งหน้ากลับไปยังเทศบาลแหลมฉบัง คาดว่า เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเหตุการณ์สุดท้ายก่อนน้องเก๋หายตัวไป
ด้านมูลนิธิกระจกเงา หลังรับแจ้งเรื่องได้ประสานงานไปยัง คณะกรรมการบริหารจัดการคนหายและศพนิรนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ประสานงาน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจเก็บสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ ของบิดาคนหายเพื่อตรวจเปรียบเทียบกับศพนิรนามทั่วประเทศ ซึ่งปกติในพื้นที่ต่างๆ มีการพบศพหรือโครงกระดูกนิรนาม ไม่ทราบชื่ออยู่เสมอ การตรวจเปรียบเทียบข้อมูลคนหายกับศพนิรนาม อาจพบข้อมูลที่สัมพันธ์กันก็ได้
มูลนิธิกระจกเงา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเก็บข้อมูลศพนิรนามในประเทศไทย ยังไม่เป็นระบบเดียวกัน มีหลายหน่วยงานและไม่เป็นเอกภาพ ควรมีการเก็บดีเอ็นเอศพนิรนามไว้ทุกรายและรวมเป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ตลอดจนข้อมูลคนหายที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ ถ้ามีลักษณะผิดปกติ หายไปในเชิงอาชญากรรม ควรมีการเก็บดีเอ็นเอของญาติคนหายไว้เพื่อเปรียบเทียบด้วย โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีศพหญิงนิรนาม ตลอดจนโครงกระดูก ตั้งแต่ปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีหลายราย ที่ควรนำมาตรวจสอบเทียบกับน้องเก๋ ซึ่งแม้ไม่ใช่น้องเก๋ ก็ติดตามหาญาติว่าศพนิรนามเหล่านั้นเป็นใคร
สำหรับผู้ที่ทราบเบาะแสการหายตัวไปของนางสาวภาวิณี กอไธสง หรือเก๋อายุ 23 ปี หายตัวไปจากแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2556 โดยคนหายสูงประมาณ 163 ซม. หนักประมาณ 55 กก. มีไฝที่จมูก และมีแผลเป็นที่แขนขวา แจ้งเบาะแสได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา โทร 0807752673