ธัมมชโย บรรดาลูกศิษย์วัดธรรมพระธรรมกายได้ออกมาเคลื่อนไหวตามสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อายุ 63 ปี อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน มูลค่ากว่า 1,115 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา
โดยบรรดาลูกศิษย์วัดพระธรรมกายระบุว่า นายศุภชัยถูกกล่าวหาในความผิดร้ายแรง จนถูกจำคุกฟรีไปหลายปี ซึ่งที่ผ่านมามีการคดีของเขาไปเชื่อมโยงกับหลวงพ่อธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อจะหลอกจับกุมหลวงพ่อธัมมชโย หลังให้หลวงพ่อธัมมชโยเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ยังได้ระบุว่า เมื่อศาลยกฟ้องให้นายศุภชัยบริสุทธิ์ ไม่มีความผิดในคดีโกงเงินสหกรณ์ นั่นแปลว่าหลวงพ่อธัมมชโย และวัดพระธรรมกายก็ไม่มีความผิดด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มลูกศิษย์วัดธรรมกายยังได้โพสต์ข้อความตามเพจการเมืองต่างๆ เช่น เพจรวมพลคนรักพรรคทักษิณ รวมพลคนรักตระกูลชินวัตร คณะก้าวไกล ซึ่งเป็นข้อความสร้างกระแส และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับหลวงพ่อธัมมชโย โดยระบุว่า
“สรุปแล้วการเล่นงานวัดพระธรรมกายเมื่อ 3-4 ปีก่อน อ้างว่าจะจับหลวงพ่อธัมมชโย ชึ่งเป็นเจ้าอาวาศวัดพระธรรมกายขณะนั้น ตั้งข้อหาให้หลวงพ่อธัมมชโยว่า
1) รับของโจร เนื่องจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เคนดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ได้มาบริจาคเงินในการสร้างอาคารร้อยปีคุณยาย โดยบริจาคเป็นเช็ครวมเงิน 800 กว่าล้านบาท
พวกเขาบอกว่าเงินนี้ นายศุภชัยโกงมาบริจาคให้วัด แต่จริงๆ คือเอาเงินของโจรมาถวายหลวงพ่อธัมมชโย ฉะนั้นหลวงพ่อ จึงผิด ข้อหารับของโจร
2) หลวงพ่อธัมมชโย ผิดข้อหาฟอกเงิน โดยคุณศุภชัย โกงเงินแล้วเอามาให้หลวงพ่อฟอกเงินเป็นเงินบริสุทธิ์
(ซึ่งทาง สตง.ได้มาตรวจสอบเส้นทางการเงินที่คุณศุภชัย ได้บริจาคให้วัดแล้ว ตรวจสอบได้ชัดเจนเพราะบริจาคเป็นเช็คให้วัด ไม่ได้บริจาคเงินสด สตง.แถลงว่า เงินที่นายศุภชัยบริจาคให้มูลนิธิคุณยายจันทร ขนนกยูง (ไม่ได้บริจาคให้หลวงพ่อธัมมชโยเลยสักบาท) เงินนี้เข้ามูลนิธิ และได้ใช้ในการก่อสร้างอาคารไปหมดแล้ว ชึ่งถ้าเป็นการฟอกเงินจริงๆ จะต้องมีการคืนเงินให้นายศุภชัย ที่เอาเงินโกงมาให้หลวงพ่อฟอกเป็นเงินบริสุทธิ์ เขาต้องมารับเงินบริสุทธิ์แล้วคืน แต่ สตง.ยืนยันว่า เงินนี้ได้จ่ายเป็นค่าก่อสร้าง ตามเจตนาที่บริจาคหมดแล้ว
สรุปแล้วมีใครกลุ่มหนึ่งหรืออาจจะเป็นคนคนหนึ่ง ต้องการเล่นงานหลวงพ่อธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย จึงใช้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ สั่งการให้ทหาร ตำรวจ เข้าปิดล้อมวัดพระธรรมกาย ตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดอาหารห้ามส่งอาหารเข้าวัด ตัดการติดต่อห้ามเข้าออก อ้างว่าจะต้องจับหลวงพ่อธัมมชโย เอามาสึกและดำเนินคดีให้ได้
แต่ดูจากเจตนาที่ทำแล้วต้องการให้พระ สามเณร อุบาสกอุบาสิกา อดตาย จะปิดวัด ยึดวัดพระธรรมกาย และต้องการเอาสมบัติของวัดมากกว่าจุดมุ่งหมายอื่นใด
ช่วงปิดล้อมวัด มีการใช้สื่อประโคมข่าวใส่ร้ายหลวงพ่อธัมมชโย และวัดพระธรรมกายทุกๆ วัน ประโคมทั้งทีวี หนังสือพิมท์ อินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้ประชาชนเกลียดชังวัดพระธรรมกาย เมื่อใช้กำลังบุกวัด ฆ่าพระ ฆ่าเณร และคนวัด ประชาชนจะได้ไม่ต่อต้าน และมีการให้สัมภาษณ์ชัดเจนจากคนของขบวนการล้มวัดพระธรรมมกายว่า จะยึดวัด ห้ามคนเข้า ยึดสมบัติและเงินและที่ดินของวัดทั้งหมด
“เมื่อศาลตัดสินว่านายศุภชัย ไม่ได้โกงเงินสหกรณ์ นั่นหมายถึงหลวงพ่อธัมมชโย และวัดพระธรรมกายไม่มีความผิดด้วย”
ใครจะรับผิดชอบความเสียหายครั้งนี้ งบประมาณที่ยกกำลังมาล้อมวัด ค่าเบี้ยเลี้ยงทหาร ตำรวจ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นล้าน ใครรับผิดชอบ ค่าทำลายใส่ร้ายหลวงพ่อธัมมชโยที่ถูกประชาชนเข้าใจผิด เกลียดชังด่าว่าท่านมายาวนาน”

อย่างไรก็ดี นายศุภชัยยังมีคดีแพ่งหลายสำนวนที่พิพากษาแล้ว และยังมีอีกหลายสำนวนที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดี จึงยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่าหลวงพ่อธัมมชโยเป็นผู้บริสุทธิ์ และในส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโยนั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากหลวงพ่อธัมมชโยยังคงหลบหนีคดีอยู่