นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย นำรายงานฉบับสมบูรณ์ในการค้นหาความจริงกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่ นาย วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 มารายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
นายวิชา กล่าวภายหลังว่า รายงานที่ส่งให้นายกฯ มีเนื้อหาประมาณ 100 หน้า แต่ข้อสรุปจริง ๆ มีประมาณ 10 หน้า เป็นรายละเอียดเขียนไว้ชัดเจนว่า เกิดความบกพร่องที่ใครหน่วยงานไหน โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ร่วมรับฟังด้วย ซึ่งนายกฯรับฟังพร้อมจดบันทึกด้วยตัวเอง และบอกชัดเจนว่า วันที่ 1 ก.ย. จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะมีหลายเรื่องเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมการเกี่ยวช้องกับหลายฝ่าย หลายหน่วยงาน ที่จะต้องนำไปปฏิบัติขอให้ วันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จะแถลงเรื่องดังกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยตนเอง
โดยในเอกสารข้อสรุปที่นายกฯ จะเปิดเผย อ่านดูก็รู้ว่า ใครผิด รายละเอียดจะอยู่ในนั้นทั้งหมด ขอให้ติดตามอ่านพรุ่งนี้ ในนั้นจะรู้หมดเลย เขียนชัดเจน ไม่มีกั๊ก มีทั้งชื่อ ทั้งตำแหน่ง ทั้งหน่วยงานอยู่ในนั้นทั้งหมด และจะแจกข้อมูลสำคัญที่เป็นเอกสารให้กับสื่อมวลชน นำไปเผยแพร่เพราะถือว่าการตรวจสอบ ของคณะกรรมการ เป็นการตรวจสอบโดยโปร่งใสไม่มีลับลมคมใน และนายกฯ ต้องการนำเรื่องนี้ไปสู่การแก้ไข โดยเฉพาะข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ที่จะต้องนำไปทำอย่างจริงจัง เมื่อนายกฯ แถลงแล้ว ต่อจากนั้นตนจะเปิดการแถลงข่าว เรื่องดังกล่าวต่อที่ตึกสันติไมตรี ในทำเนียบรัฐบาล บอกข้อมูลต้องนำไปสู่การดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าเรื่องนี้มีคนผิดทั้งวินัยอาญา และจริยธรรม จะนำไปสู่การดำเนินการถึงขั้นเอาผิดให้ได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ในรายงานมีรายละเอียดทั้งหมด และนายกฯตั้งใจอยู่แล้วว่า จะต้องส่งให้หน่วยงานที่จะรับผิดชอบต่อไปขอให้รอฟังนายกรัฐมนตรีแถลง และพรุ่งนี้ ตนก็จะแถลงรายละเอียดต่อทันที
เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำหลักฐานมายืนยันว่า ตัวเองอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเวลาที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน อ้างว่า พล.ต.อ.สมยศ แนะนำให้รู้จักนักวิชาการและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ นายวรยุทธ นายวิชา ตอบว่า “เอาเถอะเราชัดเจนแล้ว ไปอ่านในสำนวนจะรู้เลยอยู่ในรายงาน ไม่มีแทงกั๊ก ในส่วนของคณะกรรมการมีความชัดเจนให้ไปอ่านในรายงานดู ก็จะรู้เลยว่า ไม่มีแทงกั๊ก ทำอะไรเราต้องโปร่งใส เปิดเผยตรวจสอบได้ ไม่มีแทงกั๊ก ไม่มีคลุมเครือ”
นายวิชา กล่าว ด้วยว่าหลังจากนี้ คณะกรรมการฯยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่ออีก 30 วัน เพื่อนำไปสู่แนวทางการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมต่อไป
