ยังไม่ชัด! คดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน หลังจากใช้บริการนวดย่านสุขุมวิท แล้วถูกกระทำอนาจาร โดยผู้ต้องหาพนักงานชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหา และพร้อมสู้คดี หลังตำรวจปล่อยตัวชั่ว ก่อนเรียกสอบอีกครั้งวันที่ 18 เมษายนนี้ โดยมีหลักฐานเป็นภาพกล้องจรปิด
จากกรณีสาวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 12 เม.ย. ผู้เสียหายกับเพื่อนสาวชาวไต้หวันได้ไปใช้บริการนวดที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งทั้ง 2 นวดฝ่าเท้า โดยมีนายภูริวัฒน์ พนักงานเป็นผู้นวด ก่อนแยกกลับเพื่อเพื่อขึ้นไปนวดแผนไทยต่อที่บริเวณชั้น 2 ของทางร้าน ขณะที่นวดนั้น ผู้เสียหายระบุว่า พนักงานรายนี้ได้กระทำอนาจารและทำการข่มขืนจนเสร็จ และผู้ต้องหากลับไปทำงานตามปกติ ส่วนตัวผู้เสียหายได้ลงมาชำระเงินค่านวด และเดินทางกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม ก่อนมาแจ้งความในวันรุ่งขึ้น(13 เม.ย.) ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งพยานที่เกี่ยวข้อง และส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเชิญตัวนายภูริวัฒน์ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมอบตัว ถูกแจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี และข่มขืนนกระทำชำเราผู้อื่น”
ด้านพันตำรวจโทพิษณุพล เดชศรี สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจทองหล่อ ระบุว่า ระหว่างเดินทางไปนำตัวนายภูริวัฒน์ ที่ร้านผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และยังสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าถูกแจ้งข้อกล่าวหาได้อย่างไร โดยขณะนี้ ตำรวจได้เก็บภาพวงจรปิดจากทางร้านเพื่อแปลงไฟล์ภาพ นำมาประกอบกับคำให้การแล้ว
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่ามีเพศสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวรายนี้จริง แต่ทางผู้เสียหายได้ยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยไม่มีการขัดขืน หรือร้องขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด อีกทั้งผู้เสียหายยังมานั่งรอเพื่อน และจ่ายเงินที่บริเวณเคาน์เตอร์ ค่านวดจำนวน 200 บาท หนำซ้ำยังให้ทิปแก่ผู้ต้องหาอีก 100 บาท ด้วย
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านนวดย่าน สุขุมวิท 23 ซึ่งทางร้านยังไม่อนุญาติให้รายละเอียดใดๆ รวมถึงบันทึกภาพ แต่ให้ข้อมูลว่า ทางร้านยังคงแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวสาวทั้ง 2 คน ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ เมื่อลงมาชำระค่าบริการนวด และแถมให้ทิปกับนายภูริวัฒน์อีกด้วย ซึ่งหลักฐานกล้องได้มอบให้ตำรวจแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ต้องหาหลังรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด โดยตำรวจจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอีกครั้ง ในวันที่ 18 เมษายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่บริเวณดังกล่าว จะมีร้านนวดแผนไทยประมาณ 4-5 ร้านติดกัน โดยย่านดังกล่าวเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาใช้บริการในรูปแบบต่างๆ เช่น นั่งดื่ม นวด และฟังเพลง โดยอยู่ในย่านร้านคาวบอย ที่นักเที่ยวรู้จักดี