พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ คุมตัว นายณัฐพงศ์ ไชยเทพ อายุ 24 ปี และ น.ส.นพรัตน์ ชะเอม อายุ 21 ปี คู่รักวัยรุ่น ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุกระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวจีน บริเวณแยกหน้าบริษัทการบินไทย ถ.พระปกเกล้า อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา และถูกตำรวจติดตามจับกุมได้เมื่อคืนที่ผ่านมา การทำแผนครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา MS.GAO KE นักท่องเที่ยวชาวจีน ผู้เสียหายได้เดินออกจากที่พักโรงแรมสลิปเกสเฮ้าส์ และเดินเที่ยวไปตามถนนพระปกเกล้าจนถึงบริเวณหน้าบริษัทการบินไทย ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาทางด้านหลัง คนร้ายเป็นชายลงจากรถจักรยานยนต์เข้ามากระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย ก่อนจะวิ่งไปซ้อนรถจักรยานยนต์โดยมีคนร้ายเป็นหญิงขับขี่แล้วพากันหลบหนี โดยทรัพย์สินภายในกระเป๋ามีโทรศัพท์มือถือและเครดิตการ์ด 2 ใบ
หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ ทำให้เห็นรูปพรรณสองคนร้ายอย่างชัดเจน พร้อมติดตามดูกล้องตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ทำให้พบว่าสองคนร้ายเตรียมการมาก่อเหตุ โดยได้ขี่จักรยานยนต์อ้อมไปมาหลายจุดและมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า หลังจากนั้นไม่นานตำรวจทราบว่าสองคนร้าย คือ นายณัฐพงศ์ และ น.ส.นพรัตน์ จึงขออนุมัติหมายจับจากาลจังหวัดเชียงใหม่ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด และ เข้าจับกุมได้ชุมชนหลังวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่
นายณัฐพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยติดคุกในคดีชิงทรัพย์นาน 5 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ในคืนเกิดเหตุได้ทะเลาะกับแม่จึงขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านมากับแฟนสาวที่เพิ่งคบกันได้ 1 เดือน มาก่อเหตุชิงทรัพย์หวังได้เงินไปเปิดห้องพักเพื่อนอนกับแฟนสาว แต่หลังจากก่อเหตุพบว่ากระเป๋าที่ได้มาไม่มีเงินสด มีเพียงโทรศัพท์มือถือ บัตรเครดิต และ กุญแจห้องพัก จึงตัดสินใจไม่เอาทรัพย์สินนำไปโยนทิ้งเพราะกลัวเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมได้ กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด
ผบช.ภ.5 ระบุว่า เหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์โดยเฉพาะที่เกิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ จ.เชียงใหม่ เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงได้กำชับให้ทุกท้องที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาในทุกคดีที่มีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น