จับแล้ว! สาวเพี้ยนฟันคอชายร่างเปลือยหมกศพดับสยอง เผยผู้ตายโดนจับหลายครั้ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรธานี จับกุมสาวเพี้ยนมือฟันคอญาติชายบุกห้องข่มขืนดับสยอง ก่อนหมกศพในห้องนอนและนอนกับศพด้วยกัน 5 คืนก่อนหลบหนี ก่อนนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ประวัติของผู้ตายสืบทราบว่าเคยโดนจับหลายครั้งในคดียาเสพติด 

วันนี้ (10 ก.ย.61) พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี, พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และ สภ.ห้วยหลวง กว่า 10 นาย ได้ควบคุมตัว น.ส.วนิดา วงษ์สา อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา ที่ใช้อาวุธมีดอีโต้ฟัน นายจิระศักดิ์ พาพิจิตร อายุ 41 ปี เสียชีวิต ที่มาเคาะประตู แล้วเข้าไปจะทำการข่มขืน พร้อมทั้งขู่จะไปข่มขืนลูกสาวหากไม่ยอม เหตุเกิดที่ห้องนอน ชั้นล่างของบ้านพัก ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหนองสวรรค์ ม.5 ต. เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี โดยมีชาวบ้านและญาติ ทราบข่าวมาดูจำนวนมาก ซึ่งต่างพากันสงสาร น.ส.วนิดา ที่ก่อเหตุเพราะความจำเป็น

ในการทำแผนเริ่มจาก น.ส.วนิดาฯ เปิดประตูห้องนอนพบ นายจิระศักดิ์ ผู้ตายที่มาเคาะห้อง และมีอาการมึนเมามาผลักเข้าไปในห้องแล้ว นายจิระศักดิ์ ถอดเสื้อผ้าตัวเองออก และจะมาถอดเสื้อผ้า น.ส.วนิดา แต่ น.ส.วนิดา ขัดขืนผลัก นายจิระศักดิ์ ล้มลงที่เตียง จากนั้นใช้มีดอีโต้ในห้องนอนฟันเข้าที่ท้ายทอย 3 ครั้งจน นายจิระศักดิ์ เสียชีวิตคาที่ แล้วนำเอาผ้ามาห่อศพ จากนั้นก็ออกจากห้องมาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับเข้าไปนอนในห้องด้วยความกลัวและไม่กล้าไปไหน โดยได้อยู่ในห้องนอนกับศพ 2 วัน

จากนั้นพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่หลบไปนอนที่ศาลากลางน้ำบ้านหนองสวรรค์ พอรุ่งเช้าย้อนกลับมาบ้าน ได้มาทำกับข้าวให้แม่และลูกกิน  ซึ่งศพที่อยู่ห้องนอน เริ่มมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปไหนจึงได้ไปหลบซ่อน อยู่ในตลาดไทยศิริ 3 บ้านวัวข้อง แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตามจับกุมได้ในที่สุด

นายธวัชชัย วงศ์สา อายุ 41 ปี ญาติสาวมือฟัน เปิดเผยว่า นายจิระศักดิ์ ผู้ตายมีนิสัยชอบดื่มสุราและเสพยาเสพติด ถูกตำรวจจับไปหลายครั้งแล้ว และผู้ตายยังชอบไปแอบดู น.ส.วนิดา อาบน้ำ ถ้าตนหรือญาติ ๆ ไม่อยู่บ้านก็จะมาเคาะประตูห้องนอน น.ส.วนิดา เป็นประจำโดย นายจิระศักดิ์ จะมานั่งอยู่หน้าบ้าน น.ส.วนิดา และคอยมองอยู่ตลอด ถ้าเดินผ่านก็จะแอบถูกเนื้อต้องตัวบ้าง เพราะทั้ง 2 คนก็เป็นญาติพี่น้องกันไม่คิดเลยว่า ผู้ตายจะทำเรื่องที่ไม่ดีเช่นนี้ และ น.ส.วนิดา ก็ไม่เคยบอกให้ญาติพี่น้องหรือเล่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้ใครฟังเลย

หลังจากทำแผนเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.วนิดาฯ ดำเนินคดี ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” ส่วนการตรวจว่า น.ส.วนิดา  มีอาการทางประสาทหรือไม่ต้องรอผลจากทางแพทย์อีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป