เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 245 จ.อุดรธานี ปลอมตัวเป็นเสี่ยค้ายาเสพติดล่อซื้อจากพ่อค้าชาว สปป.ลาว ก่อนเข้าจับกุมพร้อมของกลางกว่า 18,000 เม็ด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (21 ส.ค.60) ที่ห้องประชุมดุรงควิบูลย์ ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ พ.ต.อ.อนุชา จารุนัฎ รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 พ.ต.อ.ปรัชญ์ สุนทรพิมล ผกก.ตชด.24 พ.ต.ต.ยุทธยา สังแสวง ผบ.ร้อย ตชด.245 แถลงข่าวจับแก๊งยาบ้าชาวลาว ประกอบด้วย นายพน ไชปันยา อายุ 45 ปี ราษฎรบ้านโพนงามนาฝ้าย เมืองทุละคม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และ นางคำมุน ไชยะวง อายุ 28 ปี ราษฎรท่านาก อ.ไซทานี แขวงกำแพงนคร สปป.ลาว ของกลางยาบ้า 18,000 เม็ด กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง บัตรผ่านแดน เงินล่อซื้อ 2 แสนบาท
พ.ต.อ.อนุชา จารุนัฎ รอง ผบก.ตชด.ภาค 2 เปิดเผยว่า ร.ต.ท.จีรศักดิ์ คำวะเนตร หน.ปชส.ร้อย ตชด.245 ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีกลุ่มนักค้ายาเสพติดชาวลาวชื่อ นายพน ไม่ทราบนามสกุล ลักลอบนำยาเสพติด ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ กัญชา จำนวนมากข้ามมาส่งลูกค้าในเขต จ.หนองคาย และ อุดรธานี หลายครั้ง จึงวางแผนล่อซื้อ โดยให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวเป็น “เสี่ยหนุ่ม” และ “เสี่ยชาติ” พ่อค้ายาเสพติดชาวไทย เจรจาติดต่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายพน เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ท่าเรือวัดหายโศก ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย ตกลงซื้อขายยาบ้า 18,000 เม็ด หรือ 9 มัด ราคา 2 แสนบาท นัดส่งยาบ้าเที่ยงคืนวันที่ 20 ส.ค.
พ.ต.อ.อนุชา เปิดเผยอีก ว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายเที่ยงคืนวันที่ 20 ส.ค. นายพน ได้โทรศัพท์แจ้งเสี่ยหนุ่ม กับเสี่ยชาติ ได้นำยาบ้า 9 มัด 18,000 เม็ด ในกระเป๋าพายสีน้ำตาล มาวางไว้ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณหมู่บ้านวัดธาตุใต้ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย และนัดพบเสี่ยทั้งสองมาจ่ายเงินที่ลานจอดรถปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาสะพานมิตรภาพ บ.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ตำรวจจึงแยกกำลังออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดไปส่งเงินและชุดไปรับยาบ้า เมื่อมาพบตำรวจที่ปลอมเป็นเสี่ยทั้งสอง ได้ส่งมอบเงิน 2 แสนบาทให้ นายพน ซึ่งส่งเงินต่อให้ นางคำมุน ไปนับเงินในห้องน้ำหญิง เสร็จแล้วเดินออกมาแจ้งว่าเงินครบ ตำรวจที่ดักซุ่มได้จึงแสดงตัวเข้าจับกุม นายพน และ นางคำมุน ส่วนตำรวจชุดไปรับยาบ้าก็พบกระเป๋าบรรจุยาบ้า 18,000 เม็ดวางอยู่จริง
จากการสอบสวน นายพน และ นางคำมุน ให้การรับสารภาพว่า พวกตนได้รับยาบ้ามาจาก นายโด้ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 23 ปี ราษฎรนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว มาส่งให้ลูกค้าในฝั่งไทย เมื่อขายได้เงินแล้วจะนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งพวกตนลักลอบนำยาบ้าข้ามมาขายหลายครั้งแล้ว ซึ่งพวกตนยังมียาบ้าอีกเกือบ 100 มัด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ที่จะนำข้ามมาส่งลูกค้าฝั่งไทย แต่พลาดท่ามาถูกตำรวจล่อซื้อจับกุมก่อน ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันนำเข้ายาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักร และมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป