เจ้าหน้าที่พบช้างป่าถูกยิงตาย 1 ตัว บริเวณน้ำตกห้วยทรายใหญ่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน จังหวัดอุบลราชธานี พบกระสุนปืนอาก้า คาดคนร้ายเป็นแก๊ง
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์9 จังหวัดอุบลราชธานี นำสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่9 และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เข้าตรวจสอบผ่าพิสูจน์ พบว่าช้างป่าตายจำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 25-35 ปี หนักประมาณ 3.5-4.5 ตัน บริเวณน้ำตกห้วยทรายใหญ่ (แก่งอีเขียว) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจภูธรบุณฑริก พร้อมจัดกำลังเฝ้าระวังและปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
จากผลการผ่าพิสูจน์ พบว่ามีบาดแผลบริเวณสะโพกด้านซ้าย และคาดว่าเป็นรอยกระสุนปืน สันนิษฐานว่าถูกยิงมาแล้วประมาณ 7-10 วัน แต่ยังไม่เสียชีวิตทันที จนทำให้แผลที่สะโพกเริ่มช้ำ เน่า เนื้อเปื่อย และมีลิ่มเลือดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบว่า ภายในปากมีรอยช้ำ และลิ้นมีรอยไหม้ เป็นแผลคล้ายรอยกระสุน ผ่าน เมื่อพิจารณาจากร่องรอย และรูที่ออกกระสุนนัดแรก น่าจะถูกยิงเข้าทางปาก และไปทะลุทะลวงออกสะโพก 2 จุดนี้ และยังพบหัวกระสุนของปืน Ak47 หรือ ลูกปืนอาก้า ติดอยู่บริเวณซี่โครงซีกที่2 อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ภาพถ่ายจากกล้องดักถ่าย หรือคาเมร่าแท็ป พบบุคคลใส่ชุดคล้ายทหารประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมอาวุธปืน Ak47 หรือปืนอาก้า และเครื่องจับพิกัด GPS ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งห่างจากชายแดน และจุดช้างตาย ประมาณ 1 กิโลเมตร คาดว่าเข้ามาจับพิกัดไม้พะยูง และไม้มะค่าในเขตพื้นที่ เพื่อให้ผู้ลักลอบมาตัดในเขตไทย โดยเฉพาะกลุ่มป่าพนมดงรัก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นสาเหตุการตายของช้าง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ฝังกลบช้าง และฆ่าเชื้อด้วยการโรยปูนขาว พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการมาลักลอบขุดซากช้างเพื่อการค้าโดยนายสมศักดิ์ โค่นถอน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน ได้นำหลักฐานกระสุนปืน และบันทึกสาเหตุการตายของช้างจากสัตวแพทย์ นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป