เรื่องราวของเด็กชายวัย 6 ขวบที่ จ.บุรีรัมย์ถูกเด็กชายรุ่นพี่อายุ 14 ปี และ 8 ขวบทำร้ายร่างกายด้วยการมัดตัวก่อนทำอนาจาร เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อของเด็กผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ สอบสวนเด็กชาย 2 คนผู้ก่อเหตุ โดยยายของ 1 ในผู้ก่อเหตุเผยคำสารภาพจากหลานว่า ใช้เชือกมัดจริงเพราะหยอกกัน แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำชำเรา
ความคืบหน้ากรณีที่ นายประหยัด (ไม่เปิดเผยนามสกุล) ชาวบ้าน ต.สูงเนิน อ.กระสัง ได้พา ด.ช.เอ็กซ์ (นามสมมติ) ลูกชายวัย 6 ขวบ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระสัง เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ลูกชายของตัวเองถูก ด.ช.นัท (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ ด.ช.นนท์ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยการใช้เชือกฟางมัดบริเวณลำตัวจนเป็นรอยแดงรอบบริเวณหน้าอกทั้ง ด.ช. 14 พยายามกระทำชำเราด้วยการสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในรูทวารของลูกชาย โดยเหตุเกิดที่วัดในหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ได้ส่งตัว ด.ช. 6 ขวบไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กทั้ง 2 คนที่ถูกกล่าวหาไปเบื้องต้นแล้ว ส่วน ด.ช. วัย 6 ขวบ ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ แพทย์ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้าน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีรอยเชือกรัดบริเวณหน้าอก ส่วนบริเวณทวารหนักที่ผู้ปกครองแจ้งว่าถูกกระทำชำเรานั้น ยังต้องรอผลตรวจยืนยันจากทางโรงพยาบาลว่ามีร่องรอยถูกกระทำชำเราหรือไม่
ขณะที่ คุณยายอายุ 63 ปี ยายของ ด.ช.นัท อายุ 14 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายและกระทำชำเรา ด.ช. 6 ขวบ ได้ออกมาระบุว่า หลังทราบเรื่องก็รู้สึกตกใจและเสียใจมากไม่คิดว่าหลานของตนเองจะมีพฤติกรรมแบบนั้น แต่จากการเค้นถามหลานถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลานก็เล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุได้ชักชวนกันไปเล่นน้ำที่ห้วยเสม็ด 3 คน จากนั้นก็พากันไปเตะฟุตบอลในสนามที่โรงเรียน แต่เนื่องจาก ด.ช. 6 ขวบ เตะบอลไม่เป็น หลานกับเด็ก 8 ขวบจึงได้นำ ด.ช.6 ขวบไปผูกไว้กับต้นไม้ภายในวัดซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน เพื่อไม่ให้มากวนตอนที่เตะฟุตบอล ซึ่งหลานก็ยอมรับว่าได้ใช้เชือกฟางมัดจริง แต่พอเค้นถามหลานว่าได้กระทำชำเรา ด.ช. 6 ขวบจริงหรือไม่ หลานก็ยืนยันกับตนเองหลายครั้งว่าไม่ได้ทำ พร้อมบอกด้วยว่าเด็ก 8 ขวบที่ไปด้วยกันเป็นพยานยืนยันได้ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าหลานพูดเท็จจริงแค่ไหนเพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่หากมีหลักฐานยืนยันว่าหลานกระทำตามที่ถูกกล่าวหาจริง ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด