หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. สั่งระดมกำลังไล่ล่าผู้ต้องหาฆ่านายมน แสนประเสริฐ แล้วหลบหนีคดีไปนานเกือบ 20 ปี ซึ่งในเที่ยงคืนที่ผ่านมาจะเป็นวันสุดท้ายที่คดีจะหมดอายุความ ล่าสุด “ครอบครัวแสนประเสริฐ” หวั่นไม่ปลอดภัย เมื่อผู้ต้องหายังคงลอยนวล
นายสมคิด แสนประเสริฐ บุตรชายของนายมน แสนประเสริฐ ที่ถูกคนร้ายใช้ปืนลูกซองยิงจนเสียชีวิตในงานแต่งงานของเพื่อนบ้านในอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ กระทั่งตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ คือนายบัวพา พูนไธสง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนางรองออกหมายจับ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน2540 และหมายจับดังกล่าวหมดอายุความไปเมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทำให้ทางนายสมคิด และคนในครอบครัวแสนประเสริฐ รู้สึกกังวลใจเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากหมดอายุความแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับไม่ถูกดำเนินคดี และตอนนี้ครอบครัวก็ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ได้พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรม แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างที่คาดหวังไว้
นอกจากนี้ นายสมคิด ยังได้นำเอกสารบันทึกประจำวัน ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่เคยไปขอคัดสำเนาคดีที่พ่อถูกยิงเสียชีวิตที่โรงพักชำนิ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรื้อฟื้นคดี แต่ตำรวจกลับบอกว่า สำนวนได้ถูกทำลายไปตามระเบียบของกฎหมายแล้ว อีกทั้ง ตนเองซึ่งเรียกได้ว่าเป็นพยานปากเอกที่อยูในเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ แต่ไม่เคยถูกเรียกเข้าให้ปากคำเลยแม้แต่ครั้งเดียว จึงมองว่าการทำคดีส่อพิรุธมีเงื่อนงำ หากเป็นไปได้อยากให้ตำรวจเปิดเผยสำนวนให้ดู เพื่อความบริสุทธิ์โปร่งใสในการทำคดีของตำรวจ
ขณะที่นายพนม สีสุระ ซึ่งตกเป็นจำเลยที่1 ที่ได้ต่อสู้คดี และศาลพิพากษายกฟ้องตั้งแต่แรก ซึ่งได้เดินทางกลับมาจากทำงานที่ต่างจังหวัด ได้ออกมาเปิดใจว่า วันเกิดเหตุ ตนไม่ได้อยู่ในงานแต่งงาน แต่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับลูกชายคนโตของนายมน ผู้ตาย กระทั่งได้ยินเสียงปืน จึงเดินไปดูเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น พอวันต่อมากลับถูกตำรวจมาล็อคตัวที่บ้าน และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุยิงนายมน เสียชีวิต ซึ่งขอยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุเพราะนั่งอยู่กับลูกชายคนตาย ซึ่งเป็นพยานได้ แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรถึงตกเป็นจำเลยที่1 ในคดีดังกล่าวดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย เคยมีเรื่องกับนายบัวพา จริง
ขณะที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หากญาติผู้เสียชีวิตติดใจในการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สามารถยื่นร้องที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดได้ โดยจะรับเรื่องไว้และดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอน ซึ่งทางครอบครัวแสนประเสริฐขอหารือกับทางทนายความส่วนตัวก่อน ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องกับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีหรือไม่