แม่ใจสลายลูกชายหายตัวไปกว่า 1 เดือนไร้ร่องรอย เข้าติดตามความคืบหน้ากับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ และสื่อมวลชนเร่งตามหาสงสัย หวั่นถูกอุ้มฆ่าเพราะมีประวัติพัวพันยาเสพติดและกลับใจช่วยงานราชการด้านปราบปรามยาเสพติด ด้านเจ้าหน้าที่เผยความคืบหน้าคดีพบรถจักรยานยนต์แล้วถูกนำไปทิ้งไว้ในคลองในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง
7 มิ.ย.60 นางมีนา ชุมทอง อายุ 48 ปี ชาว ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมญาติเข้าพบกับ พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร ผู้กำกับสอบสวน ตำรวจภูธร จ.สงขลา ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้างานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ลูกชาย คือ นายภีรนัฐ หรือ “โอ๊ต” อายุ 22 ปี หายตัวไปจากบ้านพักใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 1 พ.ค. แต่จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 40 วันก็ยังไร้วี่แววลูกชาย เกรงว่าอาจจะถูกอุ้มฆ่า จึงต้องการให้ตำรวจเร่งหาเบาะแสลูกชายพร้อมขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชนเพื่อช่วยเผยแพร่ข่าวติดตามลูกชายอีกทางหนึ่งด้วย
นางมีนา กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 เมษายน ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปกับเพื่อนบอกว่าจะไปที่หอพักแฟนสาวในตัวเมืองหาดใหญ่ แต่หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยยอมรับว่าลูกชายมีประวัติพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดแต่ระยะหลังได้กลับใจเข้ามาช่วยงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด จึงเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายหายไปน่าจะมาจากเรื่องดังกล่าว และกลัวว่าลูกจะถูกกลุ่มผู้ค้ายาอุ้มไปทำร้ายจนเสียชีวิต จึงต้องการให้ตำรวจเร่งตามหาอย่างน้อยแม้จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วแต่ขอให้พบร่างและนำกลับมาบำเพ็ญกุศาลทางศาสนาเพราะครอบครัวเป็นห่วงมากโดยเฉพาะตนตั้งแต่วันที่ลูกหายไปนอนไม่เคยหลับ
พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร ผู้กำกับสอบสวน ตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในส่วนความคืบหน้าคดีได้ประสานกับทางฝ่ายสืบสวนดำเนินการหาเบาะแสมาตลอด ซึ่งได้เรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งเพื่อนและคนสนิทมาสอบสวนเพื่อหาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา พบเบาะแสสำคัญเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ของ นายภีรนัฐ ถูกนำไปทิ้งไว้ในคลองยาง พื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ซึ่งภายในรถพบเอกสารสำคัญของ นายภีรนัฐ ที่หายไปอยู่ด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเสียชีวิตแล้วและศพถูกนำไปอำพรางซ่อนเร้นที่ใดที่หนึ่งในพื้นที่ อ.คลองหอยโข่ง ซึ่งทางชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ประสานข้อมูลกับชุดสืบสวน สภ.คลองหอยโข่ง รวมทั้งตำรวจชุดปราบปรามยาเพสติดในการคลี่คลายคดีนี้โดยเฉพาะการหาเบาะแสของ นายภัรนัฐ หรือ “โอ๊ต” ที่หายตัวไป