โจรใจบาปทั้งครอบครัว งัดตู้บริจาควิหารหลวงพ่อเงิน วัดไผ่ท่าโพเหนือ จ.พิจิตร โดยกล้องวงจรปิดบันทึกผู้ต้องสงสัย 3 ราย เป็นหญิงวัยรุ่นและวัยกลางคน เข้ามาภายในวิหาร อีกรายดูต้นทาง ใช้วิธีตัดไฟกล้องวงจรปิด ก่อนงัดตู้บริจาคขโมยเงินกว่า 5,000 บาทลอยนวล
ภาพของกล้องวงจรปิดภายในวิหารหลวงพ่อเงิน วัดไผ่ท่าโพเหนือ ตำบลไผ่ท่าโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร บันทึกภาพเมื่อเวลา 14.09 น.ของวันที่ 27 พฤษภาคม เป็นภาพผู้ต้องสงสัย จำนวน 3 ราย เป็นเพศหญิงวัยกลางคน และหญิงวัยรุ่น สวมเสื้อคลุม หญิงวัยกลางคนมีลักษณะขาซ้ายไม่ปกติ คล้ายใส่เฝือก หรือขาปลอม และสาววัยรุ่น ผมสั้นคาดอายุจะอยู่ระหว่าง อายุ 14-16 ปี ส่วนอีก 1 ราย ไม่ทราบเพศ เดินอยู่นอกกำแพงวิหาร โดยผู้ต้องสงสัยเพศหญิง 2 คนเดินเข้ามาภายในวิหารหลวงพ่อเงิน หลังจากเข้ามาภายในวิหารทั้ง 2 คนไม่กราบ “หลวงพ่อเงิน” เหมือนพุทธศาสนิกชนทั่วไป แต่พยายามมองหาอะไรบางอย่างซึ่งคาดว่าจะมองหากล้องวงจรปิด หลังจากเห็นกล้องวงจรปิดหญิงสาววัยรุ่นยังยิ้มให้กับกล้อง ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านข้างวิหารซึ่งเป็นจุดสำหรับควบคุมไฟฟ้าทำการตัดระบบไฟฟ้าภายในวิหาร จากนั้นภาพกล้องวงจรปิดได้ดับลง จนเมื่อเวลา 18.00 น. พระสงฆ์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวิหารเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนที่จะปิดวิหารพบว่าตู้บริจาคจำนวน 5 ตู้ ถูกคนร้ายงัดจึงได้แจ้งให้กับเจ้าอาวาสได้ทราบ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร เพื่อตรวจสอบต่อไป
พระครูวิบูลโพธิกิจ เจ้าอาวาสวัดไผ่ท่าโพเหนือ และเจ้าคณะตำบลไผ่ท่าโพ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุประมาณ 14.00 น. เป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์ทั้งหมด 6 รูป ได้ไปประชุมที่วัดโพธิ์ประทับช้าง ทำให้ที่วัดไม่มีใครอยู่ ช่วง 18.00 น. พระที่ดูแลวิหารหลวงพ่อเงิน แจ้งว่าตู้บริจาคในวิหารหลวงพ่อเงินโดนงัดจึงไปตรวจสอบ พบตู้บริจาคจำนวน 5 ตู้ถูกคนร้ายงัดเอาเงินบริจาคประมาณ 5,000 บาทไป ส่วนอีก 2 ตู้คนร้ายงัดไม่ได้ จึงตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัยเป็นเพศหญิง 2 รายเข้ามาในวิหาร อีก 1 รายอยู่ด้านนอก จากนั้นหญิงสาววัยรุ่นเดินไปที่บริเวณจุดควบคุมไฟจากนั้นภาพก็หายไปจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามผู้ต้องสงสัย ซึ่งหากคนในภาพไม่ใช่ผู้ก่อเหตุก็ขอให้แสดงตนเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเอง
จากการคาดการณ์ คาดว่าผู้ต้องสงสัยมาเป็นครอบครัวก่อเหตุด้วยกัน 3 คน โดย 2 คน เข้ามาก่อเหตุในวิหาร ส่วนอีก 1 คน เป็นคนดูต้นทาง เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยเป็นหญิง 2 ราย เข้ามาในวิหาร ส่วนอีก 1 ราย ไม่ทราบเพศ เห็นเพียงเดินไกล ๆ อยู่นอกรั้ววิหาร การก่อเหตุคนร้ายอาศัยช่วงเวลาที่พระสงฆ์ไม่อยู่วัดเข้ามาก่อเหตุ โดยการตัดกระแสไฟฟ้าในวิหารเพื่อให้กล้องวงจรปิดไม่ทำงาน ก่อนที่จะใช้คีมตัดบริเวณห่วงกุญแจของตู้บริจาคขโมยเงินบริจาคของวัดไปอย่างลอยนวล