ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ฝ่ายประถม แจง เด็กร้องไห้ หัก 3 คะแนน เป็นระเบียบที่มีมานานแล้วเป็นข้อบังคับเพื่อสร้างความเสมอภาคให้เด็ก
จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก Wiriyah Eduzones หรือ อ.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ ได้ออกมาโพสต์ภาพประกาศของโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่ง โดยเป็นข้อปฎิบัติในการสอบข้อนักเรียนชั้นอนุบาล 1 – 3 ซึ่งในข้อปฎิบัติ ข้อ 2 ใน 3 กำลังกลายเป็นประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในโซเชียล เนื่องจากมีการระบุว่า ‘หากนักเรียนที่เข้าทดสอบร้องไห้ ให้หักคะแนนฐานที่ร้องไห้ฐานละ 3 คะแนน’ บรรดาผู้ปกครองก็ต่างสงสัยว่าจะห้ามเด็กร้องไห้ได้อย่างไรหากเด็กรู้สึกกดดันในขณะสอบ โดยได้มีหนังสือชี้แจงพร้อมยกเลิกระเบียบดังกล่าว เกี่ยวกับข้อบังคับการหัก 3 คะแนนของ ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ฝ่ายประถม ดังนี้
แจงหักคะแนนเด็กอนุบาลร้องไห้ สร้างความเป็นธรรม
รศ.ดร.สุนันท์ สายกระสุน ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ฝ่ายประถม ชี้แจง กรณีประกาศข้อปฏิบัติการทดสอบนักเรียนชั้นอนุบาล 1-3 ให้หักคะแนนฐานที่ร้องไห้ ฐานละ 3 คะแนน
1. ถือเป็นหนึ่งในระเบียบของการทดสอบเด็กนักเรียนที่จะเข้ามาศึกษาต่อในสถาบัน “ซึ่งกำหนดไว้นานแล้ว “
2. เป็นการสร้างความเสมอภาพให้กับเด็กที่เข้าทดสอบคนอื่น ๆ เพราะการร้องไห้อาจรบกวนสมาธิของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ และร้องตาม ทำให้ไม่สนใจในสิ่งที่อยู่ข้างหน้า หรืออาจไม่สามารถเข้าทดสอบความรู้ความสามารถได้ต่อ ส่งผลกระทบต่อเด็กคนอื่นๆ
3. การตัดคะแนนก็ถือว่าให้ความเป็นธรรมต่อเด็กคนอื่นด้วย ส่วนคะแนนเพียง 3 คะแนนเป็นเพียงคะแนนส่วนน้อย
4. ปีนี้ที่ประกาศไปเพราะต้องการอยากให้ผู้ปกครองทราบรายละเอียดเพิ่มเติมในการทดสอบ
5. อาจต้องมีการทบทวนระเบียบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน
6. ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ฝ่ายประถม ยืนยันว่า จะยึดหลักความเสมอภาค ความเป็นธรรมให้แก่เด็กผู้เข้าทดสอบทุกคน
ขอยกเลิกประกาศโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) เรื่อง ข้อปฏิบัติในการประเมินพัฒนาการนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 อนุบาล 2 และอนุบาล 3 ประจำปีการศึกษา 2565 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2565
ทั้งนี้ทาง รศ.ดร.สุนันท์ สายกระสุน ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) ได้ชี้แจงว่าเป็นระเบียบที่มีการกำหนดไว้มานานแล้ว ถือเป็นระเบียบเพื่อสร้างความเสมอภาคให้กับเด็กที่เข้าทดสอบคนอื่น ๆ การร้องไห้อาจรบกวนสมาธิของเด็กนักเรียนคนอื่นๆ เพราะถ้าเด็กคนหนึ่งร้องอาจทำให้เพื่อนคนอื่นๆ ร้องตามไปด้วย
ขอบคุณข้อมูล Pornwadee Latthanadee
