ภรรยาผู้ตาย “คดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน” รับ ‘ช่างกิต’ มาจีบจริง ยืนยัน! ไม่มีส่วนรู้เห็น การฆาตกรรมสามีตัวเอง
สืบเนื่องจากกรณี คดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน แล้วมีนำศพมาทิ้งข้างถนนมอเตอร์เวย์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา จากได้มีจับกุมนายกิตติโชติ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเลขที่ จ.39/2567 พร้อมมีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุอีก 4 รายที่ล่าสุดมามอบตัวเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนประเด็นสาเหตุการลงมือในครั้งนี้ นายกิต หรือ ช่างกิต ได้มีการเปิดปากออกมา เพราะตนหึงหวงแฟนผู้ตาย ภรรยาของผู้ตายหลอกทางคนก่อเหตุว่า ตัวเองอาศัยอยู่กับพ่อ เมื่อชายชู้ซึ่งเป็นคนก่อเหตุรู้จึงเกิดความหึงหวง ไม่พอใจจึงมีการอุ้มมาเพื่อเคลียร์ ระหว่างที่เคลียร์กันอยู่นั้นนายใหม่ ผู้ตายถูกกลุ่มคนร้ายยึดโทรศัพท์มือถือไว้
และเห็นว่าภรรยาผู้ตาย ส่งข้อความมาหลายข้อความในตอนนั้น ด้วยความโมโห เกิดความไม่พอใจขึ้น จากตอนเเรกจะแค่เคลียร์กันเฉยๆ จับนายใหม่มัดมือมัดเท้า จากนั้นจึงยิงนายใหม่บนรถ เเล้วขับรถไปที่จุดทิ้งศพแล้วถีบร่างของนายใหม่ลงจากรถไปเลย
ล่าสุด ด้าน น.ส.วรรณพร หรือ พร ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า ตนรู้จักกับ ช่างกิต เกือบๆ 1 เดือน เขาเป็นหัวหน้างาน ช่างกิตมาจีบเราโดยที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเรามีสามีอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังจะจีบเรา
และใน วันที่ไปพบศพสามี หรือ ใหม่ ที่มีภาพว่าตนไปดูศพพร้อมกับช่างกิต เรื่องนี้ พร บอกว่า ตนโทรไปหาน้องชายของใหม่ แต่เราร้อนใจทนรอไม่ไหว จึงโทรหาช่างกิต เพราะเรานึกถึงใครไม่ออกแล้ว ก็เลยโทรหาให้เขามาช่วยขับรถให้ แต่วันที่ไปเจอศพ เขาไม่มีอาการไม่มีพิรุธอะไรกับเราเลย ทำให้เราไม่เคยคิดสงสัยเลยว่า เขาจะเลวมากถึงขั้นมาฆาตกรรมคนที่เรารักได้อย่างโหดร้ายขนาดนี้
“ช่างกิต” เข้าหมู่บ้านได้ไงยัง?
ประเด็นเรื่อง คีย์การ์ดหมู่บ้านที่ ช่างกิต ใช้เข้าหมู่บ้าน พร กล่าวว่า ตนนั้นไม่ได้ให้ใครไป แต่คีย์การ์ดหายไปจากรถ มารู้ว่าหายไปก็ตอนที่จะเข้าหมู่บ้านแล้วหาไม่เจอ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเอาไป
“พรทราบดีว่า สังคมกำลังตั้งข้อสงสัยในตัวพร ว่ามีส่วนรู้เห็นในการฆาตกรรมสามี ซึ่งตนก็คงไม่ได้โกรธ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คนอื่นคิด ตอนนี้สภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก ก็ไม่อยากจะตอบคำถามใครอีกแล้ว หลังจากนี้ถ้ามีใครจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไป เพราะความจริงก็คือความจริง ตอนนี้แค่อยากจัดงานศพใหม่ให้ผ่านไปได้ด้วยดีที่สุดก็พอ” พร ภรรยาผู้ตาย กล่าว
