สว.สมชาย เตือน! หยุดออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ทำโครงการ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ชี้ หากเดินหน้าต่ออาจได้ เปลี่ยนตัวนายกฯ
วันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้กล่าวเสนอแนะไปยัง รัฐบาล และคณะทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาล ว่าให้อ่านบันทึกของสำนักงานกฤษฎีกาที่กระทรวงการคลังทำข้อหารือไปยังกฤษฎีกาสอบถามว่ารัฐบาลสามารถออกพระราชบัญญัติ หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินในโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” จำนวน 5 แสนล้านบาท ได้หรือไม่ อย่างไร ด้วยความละเอียด รอบคอบ
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่าหากคนของรัฐบาลตีความว่าทำได้ จะถือเป็นความเสี่ยงของรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของกระทรวงการคลังที่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย หากรัฐบาลเดินหน้าเรื่อง ปลายทางต้องถูกส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ ทราบว่ามีผู้ที่ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
“ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดทำโครงการนี้ เพราะตามบันทึกของกฤษฎีกา เท่าที่ทราบกำหนด เงื่อนไขที่ทำให้เกิดขึ้นได้ยาก เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐหลายมาตรา ทางออกตอนนี้รัฐบาลขอโทษกับประชาชนและเลิกโครงการ หากจะเดินหน้าทำต่อไป ผมว่ามีสิทธิ์ที่นายกฯ อาจจะถูกเปลี่ยนตัวได้” นายสมชายกล่าว

หากรัฐบาลจะออก พ.ร.ก. กู้เงิน
อีกทั้ง หากรัฐบาลจะออก พ.ร.ก. กู้เงิน ตนมองว่าไม่อยู่ในข้อคำถามที่สอบถามไปยังกฤษฎีกา เพราะเจาะจงไปที่การออกเป็น พ.ร.บ. ขณะเดียวกันในความเห็นของกฤษฎีกาเท่าที่ตนทราบ คือรัฐบาลเดินหน้าออกเป็น พ.ร.บ.ได้ แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 53 และมาตรา 57 ของกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐให้เป็นที่ประจักษ์
ซึ่งมีรายละเอียดที่เป็นเงื่อนไขคือ เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน , เป็นเรื่องต่อเนื่อง เป็นเรื่องแก้วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สามารถออกเป็นกฎหมายงบประมาณประจำปีได้ทัน แต่ที่ผ่านมาพบว่าสถานะของประเทศและความจำเป็นของการออก พ.ร.บ. กู้เงิน ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว