ตร.รวบ 2 วัยรุ่นเมา เลือดร้อน เตะก้านคอ ตาวัย 85 ปี อ้างเมา ฉุนที่ถูกเตือนทำเสียงดังรบกวนพระ
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 พ.ต.ท.สมชาย สาคร สารวัตรสอบสวน สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ พบศพชายชรา นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหลังเมรุเผาศพ ภายในวัดมงคลโคธาวาส ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธีร่วมกตัญญูเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่
ในที่เกิดเหตุ พบศพ นายณรงค์ แพรศิริ อายุ 85 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้น ในสภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ มือซ้ายยังกำซองยาเส้นอยู่ 1 ห่อ ข้างศีรษะผู้ตายมีกระบอกไฟฉายตกอยู่ 1 อัน ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณกองหินด้านหลังเมรุเผาศพภายในวัด จึงได้ประสานแพทย์เวรของโรงพยาบาลบางบ่อ เข้าตรวจสอบสภาพผู้เสียชีวิต จึงพบว่ามีรอยช้ำที่บริเวณใต้กกหูข้างขวาเท่านั้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อญาติของผู้เสียชีวิต ด้าน น.ส.รัตนา แพรศิริ อายุ 53 ปี บุตรสาวของผู้ตาย จึงให้การว่า พ่อของตนนั้นเดินออกจากบ้านไปในช่วงค่ำที่ผ่านมา ตนพยายามออกตามหาพ่อแต่ก็หาไม่พบ ต่อมาในช่วงเช้าก็มีชาวบ้านวิ่งมาบอกตนว่า พบพ่อของตนนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณที่พบศพดังกล่าว ตนจึงรีบเข้าไปดูพบว่าเป็นพ่อของตนจริง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าจับกุม ชายวัยรุ่น 2 คน อายุ 20 ปี และอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่เป็นคนทำร้ายผู้ตายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต มาทำการสอบสวนที่โรงพัก
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพในเวลาต่อมา พร้อมเล่าว่า กลุ่มของตนได้ตั้งวงดื่มเหล้าจนอยู่ในอาการเมาและคุยกันส่งเสียดังจนผ่านเข้ามาในวัด ผู้ตายจึงได้เดินมาจากหลังเมรุเผาศพ และตักเตือนกลุ่มของตนให้เบาเสียงลง เนื่องจากเสียงดังรบกวนพระที่จำวัดอยู่ แต่ด้วยความเมา วัยรุ่นวัย 17 ปี รับสารภาพว่า ได้ใช้มือผลักผู้ตายจนล้มไปนั่งกองอยุ่กับพื้น ส่วนเพื่อนในวงเหล้านั้นใช้เท้าเตะซ้ำเข้าไปที่ก้านคอให้กกหูข้างขวาของผู้ตายไป 1 ครั้ง จากนั้นผู้ตายได้ลงไปนอนแน่นิ่ง แต่ตนไม่ได้คิดว่าผู้ตายจะเสียชีวิต ตนกับเพื่อนจึงได้เดินทางกลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณวัดที่เกิดเหตุนัก จนกระทั่งในช่วงสายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาจับกุมตนทั้งสองได้ที่บ้านพักขณะที่ยังนอนหลับอยู่
ผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ก่อเหตุมาชี้จุดที่เกิดเหตุ ญาติของผู้ตายซึ่งเป็นหลานชายวัย 20 ปี เกิดอาการโกรธจัดจึงฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เข้าไปกระโดดถีบเข้ากลางหน้าอกของผู้ก่อเหตุจนกระเด็น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าห้ามปรามก่อนที่จะกันตัวผู้ก่อเหตุกลับโรงพักเพื่อทำบันทึกจับกุมตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป