สนพ. โชว์ผลงานการสนับสนุนโครงการด้านพลังงานจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการและเลขานุการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการเด่นที่กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้การสนับสนุนที่ จังหวัดเชียงใหม่ เช่น โครงการการพัฒนาต้นแบบระบบการผลิตถ่านชีวภาพอัดเม็ดค่าความร้อนสูงจากวัสดุทางการเกษตร แบบเคลื่อนที่ได้ (Mobile Pyrolysis) เนื่องจากในภาคเหนือมีพื้นที่เป็นเขตเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหา กลุ่มควันพิษจากการเผาไหม้วัสดุเหลือใช้จากการเกษตรและการเผาไร่อยู่บ่อยครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหามูลพิษ
นอกจากนี้ สนพ. จึงได้สนับสนุนให้ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินการคิดค้นกระบวนการผลิตถ่านชีวภาพ โดยใช้กระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis Process) ซึ่งเป็นกระบวนการสลายตัวของสารด้วยความร้อนในสภาวะไร้อากาศ หรืออับอากาศในช่วงอุณหภูมิสูง เพื่อให้ได้ถ่านชีวภาพที่มีคุณสมบัติเทียบเท่าถ่านหิน เป็นพลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ ที่สะอาดและลดการนำเข้าด้านพลังงาน อีกทั้งยังมีการกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการชีวมวลที่เกิดขึ้นในชุมชน และในภาคเกษตรโดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
รวมถึงสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ พลังงานสะอาด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบการคัดเลือกผ่านเข้ารอบสุดท้ายโครงการสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ ทั้งพลังงานอัจฉริยะ การสัญจรอัจฉริยะ ชุมชนอัจฉริยะ สภาพแวดล้อมอัจฉริยะ เศรษฐกิจอัจฉริยะ อาคารอัจฉริยะ การบริหารจัดการอัจฉริยะ และนวัตกรรมอัจฉริยะ ซึ่งในขณะนี้ผลงานโครงการฯ ถึงขั้นตอนที่ 3 เพื่อพิจารณา การเป็นองค์กรต้นแบบของ Smart City-Clean Energy ต่อไป
ดร.ทวารัฐ ยังเยี่ยมชมโครงการสาธิตการใช้ประโยชน์จากก๊าซไบโอมีเทนด้วยระบบท่อส่งก๊าซ (City Gas Grid) เพื่อทดแทนก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมโชว์การทำไข่ดาวด้วยก๊าซหุงต้มร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้านโรงวัว อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
อย่างไรก็ตามการติดตั้งก๊าซไบโอมีเทนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มสาธิตแล้วจำนวน 125 ครัวเรือน เพื่อใช้ทดแทนการใช้ LPG ได้มากกว่า 17,200 กิโลกรัม/ปี คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 430,000 บาท/ปี โดยได้รับความร่วมมือจากฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ บริษัท รวมพรมิตรฟาร์ม จำกัด เพื่อให้เป็นชุมชนต้นแบบปลอดการใช้ LPG และมีความยั่งยืนด้านพลังงาน