สนธิรัตน์ เผยผลประชุม กพช. ยันเดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจฐานราก ผุดโรงไฟฟ้าชุมชน จากพืชพลังงาน-โซลาร์ พร้อมเร่งสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์มยกระดับดีเซล B10
วันนี้ (11 ก.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ได้มีการพิจารณาวาระสำคัญ โดยเห็นชอบนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โรงไฟฟ้าชุมชน) ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าฯ และลดภาระค่าใช้จ่าย โดยผลประชุมเป็นที่หน้าพอใจและเห็นด้วยในการเดินหน้านโยบาลดังกล่าว
ส่วนการกำหนดพื้นที่เป้าหมายตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น ต้องเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียนทั่วประเทศ และมีระบบส่ง ระบบจำหน่ายไฟฟ้ารองรับไฟฟ้าที่จะผลิตจากชุมชน และหากพื้นที่ไม่มีศักยภาพจากพืชพลังงานจะส่งเสริมการผลิตจากแสงอาทิตย์ด้วยขนาดกำลังผลิตที่สอดคล้องความต้องการใช้ในพื้นที่ ส่วนจุดประสงค์ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าไรครั้งนี้ยังสามารถทำให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน และที่สำคัฐทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมกพช.เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล(บี100) เพื่อให้การส่งเสริมการใช้บี100 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO)ของประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง รวมถึงช่วยลดมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จึงเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้บี100 โดยเริ่มขยายส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ให้ต่ำกว่า ดีเซลB7 ลิตรละ 2 บาท และลดส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล B20 ให้ต่ำกว่าน้ำมันดีเซล B7 ลิตรละ 3 บาท โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป