กระทรวงการคลัง เผยโครงการ “ชิมช้อปใช้”เงินสะพัดทะลุ 8 พันล้าน ขณะที่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันออกพรรษาประชาชนใช้จ่ายเยอะ
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี(ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า จากการจัดเก็บข้อมูลในช่วงวันหยุดเทศกาลวันออกพรรษาระหว่างวันที่ 12-14 ต.ค. พบว่ามีประชาชนเดินทางออกไปใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้จำนวนมาก ทำให้ร้านอาหารและร้านค้ารายย่อย โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมียอดการใช้จ่ายอย่างคึกคัก ส่งผลให้เม็ดเงินสะพัดออกสู่ต่างจังหวัดตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการจุดประกายให้เกิดสังคมไร้เงินสดเป็นวงกว้าง เป็นการสร้างฐานผู้ใช้ e-wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างยอดผู้ใช้ได้เป็น 10 ล้านคนในคราวเดียว
นายชาญกฤช กล่าวว่า สำหรับเฉพาะ ในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 12-14 ต.ค. มียอดการใช้จ่าย 1,842 ล้านบาท ตัวเลขการใช้จ่ายรวมตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-14 ต.ค. 2562 มียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,071.1 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจากกระเป๋า 1 จำนวน 7,967 ล้านบาท จากกระเป๋า 2 จำนวน 104 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม 741.2 ล้านบาท ร้านช้อป 3,242.7 ล้านบาท ร้านใช้ 72.6 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 1,578.3 ล้านบาท ส่วนผู้ไปใช้สิทธิ์ 8,328,931 คน ผู้ที่ยังไม่ไปใช้สิทธิ์ 1,671,395 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์มากที่สุดอันดับที่ 1กรุงเทพฯ 1,046.7 ล้านบาท 2.ชลบุรี 521.4 ล้านบาท และ 3.สมุทรปราการ 344.7 ล้านบาท ส่วนเชียงใหม่เพิ่มเป็น 182.3 ล้านบาท และเชียงราย 79.7 ล้านบาท
“ขอชื่นชมและขอบคุณผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อทุกรายที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งในการยุติการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมทันที หลังจากได้มีการเรียกมาชี้แจงทำความเข้าใจ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงปรับปรุงระบบให้บริการหน้าจุดชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนใหม่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยไม่มีเงื่อนไขที่ทำให้ประชาชนรู้สึกไม่เป็นธรรม” นายชาญกฤช กล่าว