ไทยไลอ้อนแอร์ จะรอดหรือร่วง หลัง กพท. ชี้มีความเสี่ยงจากปัญหาขาดทุนสะสม สั่งทำแผนแก้ปัญหา หลังพบขาดทุนมา 4 ปี ขาดทุนกว่า 4 พันล้านบาท
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานั้น กพท. ได้ตรวจสอบและติดตามสถานะทางการเงินของสายการบินต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สายการบินดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ไม่เกิดเหตุการณ์ทิ้งผู้โดยสาร หรือหยุดทำการบินกระทันหัน โดยช่วงปีที่ผ่านมา กพท. ได้ดำเนินการตรวจสอบสายการบินต่างๆ อย่างเข้มข้น เพราะอุตสาหกรรมการบินต้องเจอปัจจัยลบรอบด้าน
ในช่วงที่ผ่านมานั้นพบว่า บริษัท ไทยไลอ้อน เมนทารี จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงด้านการเงิน เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง ผลขาดทุนสะสมอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด กพท. จึงขอให้สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ส่งรายการเดินบัญชีมาให้ตรวจสอบถี่กว่าปกติ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และได้เชิญสายการบินไทยไลอ้อนแอร์มาหารือในประเด็นดังกล่าว เพื่อให้ระมัดระวังมากขึ้น โดยขอให้ ไทยไลอ้อนแอร์ จัดทำแผนจัดการด้านการเงิน และเสนอมาให้ กพท. พิจารณาภายในวันที่ 30 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา เมื่อตนมีกำหนดกลับประเทศไทยในวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ก็จะกลับไปพิจารณาแผนดังกล่าวอีกครั้ง
โดยได้เผยรายงานผลประกอบการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดังนี้
ปี 2558 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1,029 ล้านบาท หนี้สินรวม 3,010 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ติดลบ 1.864 เท่า
ปี 2559 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 443 ล้านบาท หนี้สินรวม 4,385 ล้านบาท อัตราส่วน D/E ติดลบ 2.239 เท่า
ปี 2560 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 1,496 ล้านบาท หนี้สินรวม 5,724 ล้านบาท อัตราส่วน D/E ติดลบ 1.707 เท่า
ปี 2561 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 4,634 ล้านบาท หนี้สินรวม 11,176 ล้านบาท อัตราส่วน D/E ติดลบ 1.4 เท่า
ทั้งนี้ จากการสอบถามเบื้องต้นกับไทยไลอ้อนแอร์ว่า ทั้งๆที่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องมายาวนานหลายปี แต่เหตุใดยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ ทางไทยไลอ้อนแอร์ก็ได้กล่าวว่า บริษัทแม่ในประเทศอินโดนีเซีย ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอในการเปิดให้บริการ แต่ทางไทยไลอ้อนแอร์ไม่ได้นำเงินสนับสนุน จากบริษัทแม่ไปเพิ่มในส่วนทุน แต่นำไปบันทึกเป็นหนี้สิน กพท.จึงมีความกังวลกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะหากบริษัทแม่ไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินแล้ว ไทยไลอ้อนแอร์ จะอยู่ในฐานะ ที่ไม่สามารถกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการดำเนินธุรกิจและการบริการผู้โดยสารตามมา
นอกจากนี้ ถ้าไทยไลอ้อนแอร์ยังคงขาดทุน และมีปัญหาหนี้สะสมอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มเกิดปัญหา ทาง กพท. ก็มีสิทธิ์ทบทวนใบอนุญาต ให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (AOL) ซึ่งจะมีการพิจารณาทุกๆ 6 เดือน เนื่องจากเงื่อนไขประการหนึ่งของ AOL คือผู้ประกอบการจะต้องดำเนินกิจการไปได้ด้วยดี กพท. จะเสนอเงื่อนไขหรือระเบียบเกี่ยวกับหนี้สินของผู้ประกอบการ ให้ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาในเร็วๆ นี้
อ่านข่าว Bright Today