มหาลัย หอการค้า ระบุพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี เหตุกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย
วานนี้ 24 ธค. 62 ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยช ผลการสำรวจ พฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า แม้จะยังมีการจับจ่ายโดยคาดว่าปีใหม่ 2563 จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 137,809 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 58,000 ล้านบาท และต่างจังหวัด 79,000 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2562 ที่มีเม็ดเงินสะพัด 135,279 ล้านบาท ซึ่งถือว่าขยายตัวเพียง 1.9% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 12 ปี
ทั้งนี้ สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่อัตราการเติบโต หรือเศรษฐกิจ(จีดีพี)ขยายตัวเพียง 2.6% เนื่องจากประชาชนกังวลภาวะเศรษฐกิจจึงใช้จ่ายอย่างระมัดระวังทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการปี 2563 คือ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ควบคุมราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ พัฒนาการศึกษา ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม มีงานทำ
ส่วน นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ กลุ่มตัวอย่าง 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-20 ธ.ค. 2562 ว่า ผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 76.8% มีการวางแผนออกนอกพื้นที่ในช่วงปีใหม่ เพื่อเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด โดย 84.7 % มีการวางแผนท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวมคนละ 15,615 บาท 15.3% วางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 58,842 บาท โดยคาดว่าประชาชนจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 2562 และกลับวันที่ 1 ม.ค. 2563 เฉลี่ยประมาณ 3-5 วัน ไปเที่ยวเฉลี่ย 2-4 คนต่อกลุ่ม
นอกจากนี้ยังมีการวางแผนซื้อของขวัญทั้งให้ตนเอง เช่น ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 16,362 บาท/คน เสี่ยงโชคคนละ 1,115 บาท/คน ซื้อสินค้าโอท็อป/คน 1,062 บาท และซื้อของให้ผู้อื่น เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย เครื่องประดับ ทอง 5,981 บาท/คน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 241 บาท/คน สินค้าคงทน (เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน) 3,803 บาท/คน และพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมใช้จ่ายสำหรับตนเองในช่วงปีใหม่ ส่วนใหญ่ 91.1% จะทำบุญทางศาสนา รองลงมา 90.7% สังสรรค์ /จัดเลี้ยง ท่องเที่ยว 76.8%