สมัยก่อนที่ประเทศเยอรมันถูกแยกกันเป็นเยอรมันตะวันตกกับเยอรมันตะวันออกนั้น ได้มีการสร้าง กำแพงเบอร์ลิน หรือ Berliner Mauer โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นพรมแดนของทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อ 13 สิงหาคม 1961
กำแพงเบอร์ลินทำหน้าที่เป็นเขตแดนที่มั่นคงและสัญลักษณ์ของการต่อต้นทุนนิยมมาเป็นเวลา 28 ปี ก่อนจะถูกทำลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1989 (ส่วนวันที่ 9 พ.ย. ปีนี้ครบรอบ 30 ปีการพังกำแพง) ก่อนที่มันจะถูกทำลาย มันคือสัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างระบบทุนนิยมของยุโรปตะวันตกภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา และระบบคอมมิวนิสต์ของยุโรปตะวันออกภายใต้การนำของสหภาพโซเวียต
หรือที่คนทั่วโลกเข้าใจคือ “สงครามเย็น” และหลังจากพักกำแพงแล้ว มันกลายเป็นเสมือนหน้าต่างแห่งเสรีภาพ แต่อย่างไรก็ตามช่วงที่กำแพงยังอยู่การข้ามฝั่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายหากใครฝ่าฝืนหรือถูกพบเห็นจะมีโทษคือประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้น
คือการใช้ยืนยิงที่บริเวณกำแพง และตลอด 28 ปี มีผู้เสียชีวิตที่พยายามผ่านกำแพงไปประมาณ 100 – 200 คน แต่ยังไงก็ตามจะมีผู้พยายามหลบหนีอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการสร้างอย่างเร่งรีบในวันที่ 13 ส.ค. 1961 ผู้คนตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่อีกฝั่งและญาติพี่น้องอยู่อีกฝั่ง
ช่วงแรกๆ ยังเป็นเพียงแนวรั้วลวดหนามและค่อยๆ กลายเป็นคอนกรีตที่แข็งแกร่งมีความนาว 155 กิโลเมตร สูง 4 เมตร และมีหอสังเกตการณ์ถึง 302 แห่ง และความลึกซึ้งของมันคือการกั้นยุโรปตะวันออกและตกวันตก โดยสหภาพโซเวียตระบุกว่าเป็นเกราะแต่ฝั่งอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกาบอกว่าเป็นคุกที่จองจำผู้คน
โดยฝั่งตะวันตกนั้นมีเสรีภาพในการแสดงความคิดสูงตามแบบฉบับของประชาธิปไตย และในช่วงยุค 80 ก่อนการสิ้นสุดของสงครามเย็นและการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ผู้นำเยอรมันตะวันออกได้ประกาศในวันที่ 9 พ.ย. 1989 ว่าจะเปิดพรมแดน จนทำให้มวลประชาชนปีข้ามฝั่งไปหาญาติในอีกพรมแดนและเริ่มทุบกำแพง และรัฐบาลได้รื้อถอนกำแพงได้สำเร็จในปี 1990
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://en.wikipedia.org/wiki/Berlin_Wall
https://www.history.com/topics/cold-war/berlin-wall
https://fee.org/articles/the-mistake-that-broke-the-berlin-wall/