ประชาชนหลายเมืองใหญ่ของ โบลิเวียประท้วง ทวีความรุนแรงต่อเนื่องหลังผลการเลือกตั้งปรากฎ “เอโว โมราเลส” ครองแชมป์ประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 4
ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในขั้นตอนการนับคะแนน วันที่ 20 ต.ค. ณ ตอนนั้นคะแนนของโมราเลสอยู่ที่ร้อยละ 45 ส่วนคาร์ลอส เมซาอยู่ที่ร้อยละ 38 ซึ่งต้องมีคะแนนที่ห่างกันประมาณร้อยละ 10 ถึงจะถือว่าชนะอย่างเป็นทางการ
ต่อมาในช่วงค่ำของวันดังกล่าวเกิดเรื่องน่าสงสัยขึ้น เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งสูงสุดของโบลิเวียเกิดหยุดนับคะแนนกระทันหันโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ระงับการนับคะแนนผ่านไป 24 ชั่วโมง ทางคณะกรรมการก็ออกมาเปิดเผยผลคะแนนซึ่งระบุว่าโมราเลสมีคะแนนนำสูงกว่าคู่แข่งร้อยละ 10 เพียงเล็กน้อย แต่ทางคณะกรรมการก็ยังคงไม่ได้อธิบายสาเหตุว่าทำไมถึงมีการล่าช้าในผลการนับคะแนนนี้

ผลการเลือกตั้งปรากฎว่านายโมลาเรสคว้าชัยเหนือ นายคาร์ลอส เมซา คู่แข่ง เพียง 10.57 ด้านพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างชาติต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่โปรงใสอย่างแน่นอน
ทางสหภาพยุโรป สหรัฐ บราซิล อาร์เจนตินาและโคลอมเบีย ต่างเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งในรอบ 2 เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจของประชาชน