โดนัลด์ ทรัมป์ แถลง ขอ ชาตพันธมิตร ร่วมกดดัน ช่วยคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อิหร่าน ชี้ ฐานทัพสองแห่งถูกโจมตี แต่ไม่มีทหารอเมริกันเสียชีวิต
8 มค. 63 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงหลังที่ทำเนียบขาวว่า ช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งหากอิหร่านมีหยุดการโจมตีชั่วคราว ถือเป็นข่าวดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และต่อโลก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการโจมตีสถานทูตสหรัฐฯในอิรักมีนายพลสุไลมานีเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ทำให้มีทหารอเมริกันเสียชีวิตจำนวนมาก เขาจึงควรถูกสังหารนานแล้ว เพราะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อิหร่าน ได้อยู่เบื้องหลังการยึดเรือในน่านน้ำสากล โจมตีโรงเก็บน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย และยิงโดรนสหรัฐตกอีก 2 ลำ
ดังนั้น หลังจากนี้ สหรัฐฯจะเดินหน้า แซงก์ชั่น หรือ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่านต่อไป จนกว่าอิหร่านจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองและข้อตกลงจำกัดการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่อิหร่านได้ร่วมข้อตกลง และได้เงินช่วยเหลือไปไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแทนที่อิหร่านจะขอบคุณสหรัฐฯ กลับสังหารชาวอเมริกัน ส่วนผู้นำของอิหร่านก็สังหารประชาชนของตนเองผ่านการประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้มีคนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,500 คน
ขณะที่ เหตุยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก ที่ อิหร่าน อ้างว่ามีทหารอเมริกันเสียชีวิตนั้น ทรัมป์ ยืนยันว่า ไม่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตจากเหตุโจมตีของอิหร่าน โดยขอชื่นชมทหารอเมริกันที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และ อิหร่าน คือชาติที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย

สำหรับชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องล้มเลิกข้อตกลงกับอิหร่าน เพื่อรวมพลังกดดัน และต่อนานาชาติที่จะต้องร่วมกันต่อต้านอิหร่าน ในฐานะที่เป็นประเทศที่ก่อให้เกิดกลุ่มก่อการร้ายและเรียกร้องให้นาโต้ ควรเข้ามามีส่วนร่วมในการผ่อนคลายสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางด้วย
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสรุปว่า ตอนนี้ สหรัฐฯ เป็นทั้งผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 ของโลก จึงไม่ต้องการน้ำมันจากตะวันออกกลาง ตามที่หลายฝ่ายพยายามกล่าวหา ส่วนประชาชนชาวอิหร่าน พวกเราต้องการให้พวกคุณมีอนาคตยิ่งใหญ่ที่สมควรได้รับ ความรุ่งเรืองในบ้านเกิดและความเป็นหนึ่งเดียวกับประเทศอื่นๆของโลก และสหรัฐอเมริกาพร้อมสนับสนุนสันติภาพกับทุกคนที่แสวงหา
อนึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาในการแถลงข่าวครั้งนี้ไปประมาณ 10 นาที จากนั้นก็เดินกลับทันที โดยไม่ได้ตอบสัมภาษณ์คำถามจากสื่อมวลชนจำนวนมากที่มารอ