อิสราเอล – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี แห่งประเทศอิสราเอลกล่าวว่ารัฐบาลอิสราเอลจะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่
อัพเดท 13 ก.ย. 63 ยอดตาย ไวรัส โควิด-19 เกิน 918,796 ติดเชื้อ 28,650,588 ราย หายแล้ว 19,322,144
โล่งอก! หายดีทุกราย กัมพูชา ปลอดโควิด19 ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่แล้ว
เขากล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มปีใหม่ของชาวยิวและวันหยุดนักขัตฤกษ์เพียงไม่กี่ชั่วโมงว่า การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน โดยมีทางเลือกว่าจะขยายเวลาออกไป เป้าหมายของเราคือหยุดจำนวนการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเพื่อลดการติดต่อ ซึ่งเกินเกณฑ์ผู้ป่วยรายใหม่ 4,000 รายต่อวัน มาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้ใหม่ถือเป็นมาตรการรุนแรงที่สุดที่อิสราเอลใช้ นับตั้งแต่การล็อกดาวน์ครั้งแรกช่วงปลายเดือนมีนาคมและสิ้นสุดช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยรวมถึง ห้ามรวมตัวในที่ร่มเกิน 10 คนและห้ามรวมตัวในที่แจ้งเกิน 20 คน
อัพเดท 12 ก.ย. 63 ยอดตาย ไวรัส โควิด-19 เกิน 912,212 ติดเชื้อ 28,316,230 ราย หายแล้ว 19,097,611
ขณะที่โรงเรียนกับศูนย์การค้าต่างๆ จะถูกปิด ชาวอิสราเอลต้องอยู่ห่างจากบ้านของตัวเองไม่เกิน 500 เมตร ยกเว้นตอนเดินทางไปทำงาน ส่วนสำนักงานที่ไม่ใช่ของรัฐบาลและธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดทำการต่อไปได้ แต่ต้องไม่รับลูกค้าเข้าไปภายใน แต่ห้างสรรพสินค้ากับร้านขายยาสามารถเปิดรับลูกค้าได้
การประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ทำให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้นภายในรัฐบาล โดยนาย คาคอฟ ลิตซ์มัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ ผู้นำพรรคชาวยิวเคร่งศาสนา กล่าวว่า มาตรการนี้จะทำให้ชาวยิไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลทางศาสนาต่างๆ ได้ รวมถึงพิธี ยมคิปปูร์ ในวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินชาวยิว