สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และ เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระถือเป็นคู่ที่ครองรักยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิปทรงพบกันเป็นครั้งแรกในงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องของเจ้าชายฟิลิปเมื่อปี 1934 โดยหลังจากนั้นในอีก 5 ปีต่อมา ทั้งสองพระองค์ทรงตกหลุมรักกัน เจ้าชายฟิลิป ที่ตอนนั้นทรงเป็นทหารเรือรูปงามก็ทรงให้ความสนใจสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งยังทรงเป็นเจ้าหญิงเป็นพิเศษ และมีพระชนม์เพียง 13 พรรษา ขณะที่เจ้าชายฟิลิปมีพระชนมายุ 18 พรรษา
ด่วน! เจ้าชายฟิลิป พระสวามีแห่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว



ด้านหลุยส์ เมานต์แบ็ตเทน เอิร์ลเมานต์แบ็ตเทนแห่งพม่า ซึ่งเป็นพระมาตุลาในเจ้าชายฟิลิปทรงเล่าว่าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงมีพระพักตร์ที่แดงกล่ำ เวลาที่ทรงมองเจ้าชายฟิลิป โดยพระองค์จะทรงติดตามเจ้าชายฟิลิปไปทุกๆที่ในเวลานั้น
หลังจากนั้น ทั้งสองพระองค์ก็ทรงมีพระราชหัดถเลขาถึงกันเรื่อยมา จากนั้นก็ได้มีการประกาศหมั้นเมื่อวันที 9 ก.ค. 1947 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย เนื่องจากเจ้าชายฟิลิปทรงไม่มีฐานะทางการเงินที่แน่นอน และเกิดในต่างประเทศ ซึ่งดูไม่คู่ควรกับว่าที่ราชินีแห่งอังกฤษ
อย่างไรก็ดี ด้วยความรักที่แน่นแฟ้นของทั้งสองพระองค์ เจ้าชายฟิลิปได้ทรงขอพระราชทานอนุญาตแต่งงานจากพระเจ้าจอร์จ พระบิดาของเจ้าหญิงเอลิซาเบธ และกษัตริย์แห่งราชวงศ์อังกฤษในขณะนั้น และพระราชพิธีสมรสได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ปี 1947 โดยจ้าชายฟิลิปต้องทรงสละสัญชาติกรีซและพระฐานันดรในราชวงศ์กรีซเพื่อทรงเข้าเป็นพลเมืองอังกฤษด้วย




ต่อมาเจ้าชายฟิลิปทรงต้องลาออกจากการเป็นทหารเรือในปี 1951 เพื่อช่วยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ปฏิบัติภารกิจต่างๆอย่างเต็มตัว เมื่อขึ้นครองราชย์ แต่ในช่วงปี 1950 ได้มีกระแสข่าวลือว่าเจ้าชายฟิลิปทรงมีความสัมพันธ์นอกสมรส และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2ได้ทรงปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว
ทั้งนี้ บรรดานักประวัติศาสตร์ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากต่อการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป คู่ชีวิตที่ครองรักกันมานานถึง 73 ปี โดยนักประวัติศาสตร์ยังกล่าวด้วยว่าบทบาทของเจ้าชายฟิลิป ที่ช่วยภารกิจ และคอยสนับสนุนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในทุกๆด้านถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้การครองราชย์ในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้





