ปูติน — นายแอนโนนี่ บลินเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีในวันนี้ (25 ก.พ. 2565) ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียมีความพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนรัสเซียที่จะบุกยึดกรุงเคียฟและเมืองสำคัญต่างๆในยูเครน โดยได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารตั้งแต่พรมแดนพื้นที่ตอนเหนือ ตะวันออกและตอนใต้ของยูเครนตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.2565)
ผู้นำ ยูเครน ประกาศตัดความสัมพันธ์รัสเซีย พร้อมแจกอาวุธให้ประชาชนรับมือการโจมตีของรัสเซีย
นายบลินเคนยังเน้นย้ำด้วยว่าสหรัฐฯมีพันธกิจสำคัญ ที่จะต้องปกป้องกลุ่มประเทศพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต การโจมตีหนึ่งในประเทศสมาชิกนาโตก็เท่ากับการเป็นการโจมตีสมาชิกทุกประเทศของนาโต โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯยังได้ย้ำว่าจะปกป้องพรมแดนทุกพื้นที่ของกลุ่มประเทศสมาชิกนาโต ส่วนในเวลานี้ สหรัฐฯยังคงมีการพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หากสถานการณ์ในยูเครนเลวร้ายลงอีก
หมอเหรียญทอง แสดงจุดยืน ให้กำลังใจปูตินและกองทัพรัสเซียบุก ยูเครน ยกย่องเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยว
ด้านกระทรวงมหาดไทยของยูเครนเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียได้พุ่งเป้าโจมตีพื้นที่ของพลเรือนทั้งหมด 33 แห่งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีชาวยูเครนเสียชีวิตแล้ว 137 ราย ขณะที่ชาวยูเครนต้องเข้าไปหลบระเบิดตามสถานีรถไฟ และรถไฟใต้ดินต่างๆ โดยกองทัพรัสเซียได้เข้าสู่พื้นที่ของกรุงเคียฟ พร้อมกับส่งรถถังเข้าไปด้วย หลังจากที่ได้เดินหน้าบุกโจมตีในพื้นที่ทางตอนเหนือ ตะวันออกและทางตอนใต้ของยูเครน ทางการยูเครนยังได้ประกาศให้ประชาชนทราบว่าขณะนี้ปฏิบัติการทางการได้เข้ามาในพื้นที่เมืองแล้ว และขอให้ประชาชนตอบโต้กองกำลังของรัสเซียด้วยระเบิดขวด
ชาวเน็ต ยูเครน โพสต์เศร้า ยังไม่อยากตายก่อนรู้ตอนจบของ One Piece อำลาโซเชียลหลังได้ยินเสียงระเบิด
ขณะเดียวกันกองทัพยูเครนได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ เรียกร้องให้บรรดาพลเรือนทุกช่วงอายุ หรือแม้แต่ผู้ที่ยังเป็นผู้เยาว์สามารถเข้าร่วมกับกองทัพได้ และขอให้ประชาชนที่มีอาวุธร่วมกันลุกขึ้นมาปกป้องประเทศบ้านเกิดของตน
ด้านนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ เปิดเผยว่าจากการประเมินข้อมูลจากหน่วยข่าวกรอง ระบุว่า ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียในช่วง 1 วันที่ผ่านมายังไม่สามารถยึดครองพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ และได้สูญเสียทหารไปราว 450 ราย ขณะที่ทางกองทัพรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว