การ เหยียดผิว ชาติพันธุ์ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง พร้อมทั้งมีการรณรงค์กันมาหลายรอบและช่วงยุค 2000 เหมือนจะซาไปครับแต่ปัจจุบันเริ่มจะกลับมาให้เราเห็นในหลายๆ อาทิ บริษัทเครื่องสำอางค์ L’Oreal สาขาอังกฤษยกเลิกสัญญากับนางแบบหญิงข้ามเพศ หรือการที่นักฟุตบอลอย่างมาริโอ บาโลเตลลี่และโรเมลู ลูกากกูโดนเหยียดผิวที่อิตาลี
เมื่อเราพูดถึงเรื่องดังกล่าวองค์การโซเชียลชื่อดังและดังที่สุดในประเทศไทยอย่าง Facebook ซึ่งพวกเขาเป็นบริษัทที่ยึดถือตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมากๆ และมีความชัดเจนในเรื่องการเหยียดชาติพันธุ์ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ของคนอเมริกัน ที่มีคน ลาตินอเมริกัน แอฟริกันอเมริกัน เอเชียอเมริกัน อยู่มากมายมันจึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
ล่าสุดพนักงานของ Facebook เองทั้งรุ่นเก่าและรุ่งใหม่ ออกมาโพสต์ประจารกลุ่มคนที่แสดงออกจด้วยการเหยียดผิว (Raciam)เพื่อนร่วมงานทั้ง ชาวเลาติน อเชียและแอฟริกัน ด้วยการให้พวกเขาไปเก็บขยะหรือทำความสะอาดห้องนํ้า การบังคับให้พวกเขากินกล้วยอีกต่างหาก รวมไปถึงการให้ทำงานที่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาเลยแต่แจ้งไปถึงฝ่ายบุคคลเรื่องก็หายเข้ากลีบเมฆ
ขอเท้าความสักเรื่องคืออดีตผู้จัดการของ Facbook คือ Mark Luckie ได้ทราบถึงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดีแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ “ผมรู้สึกผิดหวังกับกลุ่มพนักงานบางคน และเห็นใจพนักงานซึ่งเป็นฝ่ายถูกกระทำ” และมีบัญชีนิรนามชื่อว่า FB Blind โพสต์ข้อความที่ว่า “การเพิกเฉยเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการเหยียดสีผิวในบริษัท”
ยังมีอีกตัวอย่างคือมีพนักงานบอกว่าผู้จัดการในแผนกของพวกเขาสนับสนุนกับเรื่องการเหยียดผิวด้วยการสั่งให้พนักงาน 2 คนให้ทัศนคติเชิงลบเกี่ยวกับกาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่พนักงานกลับปฏิเสธคำสั่งนั้นจึงมีการีพอร์ตไปยังฝ่าย HR ต่อพฤติกรรมของผู้จัดการคนดังกล่าวแต่เรื่องก็ยังเงียบไปอีกเช่นเดิม และกลายเป็นว่าผู้จัดการคนดังกล่าวปิดปกพนักงาน 2 ด้วยการเลี้ยงอาหารเช้า
อย่างไรก็ตามมร. Bertie Thomson รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Facebook ทนกับข่าวดังกล่าวที่ออกมาเรื่อยๆ ไม่ไหวจนถึงต้องมีการตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขอโทษในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และประกาศจุดยืนว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อเจตนารมณ์ของ Facebook และเริ่มแก้ปัญหาดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับรณรงค์ให้เกียรติเหล่า พนักงานเชื้อสาย ลาติน เอเชียและแอฟริกัน
ในปัจจุบันหลายองค์กรในสหรัฐอเมริกามุ่งเน้นการเสริมสร้างทักษะ หรือเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ให้กับพนักงานเพราะเรื่องทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นวาระสำคัญไม่ว่าจะเป็นประเทศใดๆ ก็ตาม และอยากให้ปล่อยว่าเรื่องของชาติพันธุ์ ผิวสี – ชนชั้นออกไป จากสังคมสักทีหลังจากรณรงค์กันมาเป็นชั่วนาตาปีเหลือเกิน
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.engadget.com/2019/11/09/facebook-accused-racist-company-culture/?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAACpNS83oe2mi_3qZ2B1NbgPxwSY0LPCuxvulXcppk2rtrycg7wgH8H_kg2YqwG32j1vWdJdtj4xUbvrnME6Iw03qYkG4lIVRalSzbVYFzoU2RC2kGcqgMM136BlZ-oCCYwsPyDwnguoH94a0ql8coLrI8iESh7xMG1Hdo1ldoMkR
https://www.cnet.com/news/facebook-apologizes-after-anonymous-post-alleges-racism-at-company/