รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จะเตรียมฉีดวัคซีนของไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 ให้กับผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนของ แอสตราเซเนกาเข็มแรกราว 760,000 คน หลังการจัดส่งวัคซีนแอสตราเซเนกาจากโครงการแบ่งปันวัคซีนโคแว็กซ์เป็นไปอย่างล่าช้า โดยเดิมทีวัคซีนของแอสตราเซเนกาจากโครงการโคแว็กซ์ล็อตนี้ มีกำหนดเดินทางถึงเกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ราว 835,000 โดส ซึ่งเกาหลีใต้เตรียมนำมาฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นโดสที่ 2 หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาโดสแรกไปเมื่อเดือนเม.ย.
คำประกาศดังกล่าวของเกาหลีใต้มีขึ้น หลังจากที่หลายประเทศอย่างแคนาดา และสเปนได้เริ่มผสมการใช้วัคซีนอย่างแอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ หลังพบกรณีมีผู้เสียชีวิตจากอาการลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับวัคซีนของแอสตราเซเนกา โดยจากผลการศึกษาในสเปนพบว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกามีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง
เกาหลีใต้พบผู้มีอาการ ลิ่มเลือดอุดตัน รายแรก หลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา
เกาหลีใต้ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชากรทั่วประเทศกว่า 27 เปอร์เซ็นต์จากประชากรทั้งหมด 52 ล้านคนได้รับวัคซีนโดสแรก และเกาหลีใต้ได้ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชากร 70 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนก.ย. และตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ก่อนเดือนพ.ย.นี้ โดยคาดว่าเกาหลีใต้จะได้รับวัคซีนโควิด19 ราว 80 ล้านโดส ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งจะมีทั้งวัคซีนของแอสตราเซเนกา, ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และโมเดอร์นา
อิตาลีระงับฉีด วัคซีนแอสตราเซเนกา กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี หลังพบผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน
ออสเตรเลีย จำกัดการฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา เฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะเตรียมทดลองทางคลินิกการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา กับวัคซีนของไฟเซอร์และวัคซีนยี่ห้องอื่น โดยในเวลานี้ เกาหลีใต้ได้ทดลองใช้วัคซีนฉีดผสมกัน 2 ยี่ห้อให้กับบุคคลกากรทางการแพทย์ 100 คนเพื่อตรวจสอบดูภูมิต้านทาน และผลค้างเคียง
ทั้งนี้ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้(17 มิ.ย.) 507 คน โดยมีผู้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 150,238 ราย และมีเสียชีวิตไปทั้งหมด 1,996 ราย