ทรัมป์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯได้เปิดการแถลงข่าวผ่านทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวบุกประชิดบริเวณทำเนียบขาวเมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม
ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า จะเตรียมส่งทหารหลายหมื่นนาย พร้อมอาวุธ บุคคลากรด้านการทหาร และตำรวจไปยุติเหตุประท้วง และปล้นสะดมร้านค้า ที่เกิดจากเหตุประท้วงรุนแรงตามเมืองต่างๆเพื่อปกป้องชาวอเมริกัน พร้อมกับประณามการกระทำของกลุ่มผู้ประท้วงว่าเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนในประเทศ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ยังเรียกร้องให้บรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆควบคุมเหตุประท้วง และทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ยังบอกด้วยว่ากลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุความวุ่นวายจะต้องได้บทลงโทษรุนแรงตามกฎหมาย
หลังแถลงเสร็จ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เดินข้ามถนน พร้อมกับถือคัมภีร์ไบเบิ้ลในมือไปยังโบสถ์เซ็นต์ จอห์น ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทำเนียบขาว ซึ่งโบสถ์ดังกล่าวได้รับความเสียจากเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เหตุประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวในสหรัฐฯได้เข้าสู่คืนที่ 7 แล้ว โดยมีชนวนเหตุมาจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ วัย 46 ปี ชายผิวสี ในเมืองมินนิอาโบลิส ที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจใช้เข่ากดคอ ระหว่างถูกจับกุมฐานใช้ธนบัตรปลอมซื้อของ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวสหรัฐฯต่างโกรธแค้น และออกมาประท้วงการใช้กำลังรุนแรงของตำรวจกับคนผิวสี โดยในขณะนี้มีพื้นที่อย่างน้อย 40 เมือง ที่ต้องประกาศเคอร์ฟิว หลังเกิดเหตุประท้วง แต่กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่ก็ยังคงออกมาชุมนุม และมีบางส่วนที่ทำลายทรัพย์สินตามอาคาร บุกปล้นร้านค้า ซึ่งล่าสุดมีรายงานกลุ่มผู้ประท้วงถูกจับกุมมากกว่า 4,400 คนแล้ว