กระทรวงการคลังของสหรัฐฯได้ประกาศคว่ำบาตรบรรดานายทหาร ที่กระทำการก่อ รัฐประหารในเมียนมา โดยมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวได้พุ่งเป้าไปที่บุคคล 10 คน ซึ่งประกอบไปด้วยพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพเมียนมา ที่ขณะนี้กุมอำนาจทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ หลังทำรัฐประหาร, รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา และบริษัทอีก 3 แห่งของเมียนมา รวมทั้งสหรัฐฯจะตัดการเข้าถึงกองทุน 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 2.99 หมื่นล้านบาทของผู้นำทหารเมียนมาด้วย
การประกาศคว่ำดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่กองทัพเมียนมาได้ฉีดน้ำ ยิงกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างสันติ
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯได้เรียกร้องให้กองทัพเมียนมา ยุติการทำรัฐประหาร และให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐ พร้อมกับระบุว่า ชาวเมียนมาได้ออกมาประท้วง แสดงจุดยืนให้เห็นว่าไม่ต้องการรัฐประหาร และเมื่อเกิดเหตุประท้วง การใช้กำลังต่อผู้ที่มาประท้วงตามสิทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญจึงถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้
เมียนมา ไม่หวั่น! ประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ตร.และข้าราชการ ลงถนนร่วมชุมนุมกับประชาชน
เมียนมา ฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นวันที่ 2 หลังเพิ่งประกาศใช้กฎอัยการศึก (คลิป)
ขณะที่พล.อ. มิน อ่อง หล่าย ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้บรรดาข้าราชการยุติการชุมนุม และกลับไปทำงาน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน หลังมีบรรดาข้าราชการได้เข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร่วมกับประชาชนจากหลากหลายอาชีพทั่วประเทศ พร้อมกับขู่การจะมีมาตรการลงโทษข้าราชการ ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามด้วย โดยพล.อ. มิน อ่อง หล่ายได้ระบว่า มีกลุ่มคนที่ไม่หวังดีก่อความไม่สงบ ซึ่งทำให้ข้าราชการบางส่วนไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ดี ในเวลานี้ชาวเมียนมายังคงออกมาชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 แล้ว โดยยังคงมีประชาชนจากหลากหลายอาชีพมาร่วมชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีกลุ่มวิศวกร นักเขียน ศิลปิน รวมทั้งกราฟิกดีไซเนอร์มาร่วมเดินขบวนประท้วงด้วย
ขอบคุณภาพ DVB TV News