องค์การอนามัยโลกเตือน หรือ WHO สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่ หลังพบการระบาดของเชื้อ โควิดเดลต้า เพื่อขึ้น
สื่อต่างประเทศ รายงานคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก หลังพบการระบาดของเชื้อโควิดเดลต้า หรือเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งเชื้อตัวนี้ระบาดได้ง่านกว่าเชื้อโควิดอัลฟ้า หรือโควิดอังกฤษที่ประเทศไทยเผชิญหน้าในคลัสเตอร์สถานบันเทิง อีกทั้งมีแนวโน้มการระบาดมากขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย
ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาข้อความร่วมมือ สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนตามกำหมด หรือ ฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ยังคงปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง สืบเนื่องมาจาก ชเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดเดลต้า หรือโควิดสายพันธุ์อินเดียวไปทั่วโลก

People need to continue to use masks consistently, be in ventilated spaces, hand hygiene … the physical distance, avoid crowding. This still continues to be extremely important, even if you’re vaccinated when you have a community transmission ongoing
Dr. Mariangela Simao ผู้ช่วยอธิบดีองค์การอนามัยโลกด้านการเข้าถึงยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ผู้คนยังคงต้องสวมแมสก์อย่างต่อเนื่อง อยู่ในพื้นที่ที่มีอาการถ่านเทสะดวก ล้างมือ และ เว้นระยะห่าง หลีกเลียงพื้นที่แออัด เรื่องพวกนี้ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญ ถึงแม้ว่าคุณจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมรการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นในการขอความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากบางประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ไดเยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย และมาตรการบางอย่าง เนื่องจากการจัดสรรวัคซีนนั้นช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ย 11,659 รายต่อวัน ถือว่าลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด ถึงว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงพิเศษ ชาวอเมริกันกว่า 6 แสนคน ต้องเสียชีวิตด้วยเชื้อโควืดเดลต้า และกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวออกมาฉีดวัคซีน
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศอิสราเอล ติดเชื้อโควิดเดลต้า ซึ่งต่างได้รับวัคซีนไฟเซอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลจังกลับมาบังคับใช้มาตรการสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง
ข้อมูลจาก www.cnbc.com
สามารถติดตามข่าวสารต่าง และ อัปเดทสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV