ช็อก กัน จอมพลัง สั่งเปลี่ยนหากยกเลิกมูลนิธิฯ ให้ทรัพย์สินย้ายไปราชประชานุเคราะห์ ท้าตรวจสอบลัมบอร์กินีสีแดง ด้านณวัฒน์ เซ็งโอน 5 หมื่นสรุปเป็นของคนอื่น
23 ต.ค. 68 กรณีที่นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่เคยว่าความให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 หลายคน อาทิ นายอานนท์ นำภา,น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.พรรคประชาชน ฯลฯ ได้โพสต์ข้อมูลในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้ง “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” โดยอ้างถึงข้อบังคับของมูลนิธิ ข้อที่ 39 ซึ่งกำหนดไว้ว่า หากมูลนิธิต้องเลิกล้มลง ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดที่เหลืออยู่ จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า นั้น
ล่าสุด นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้ตอบประเด็นดังกล่าวผ่านวิโอคลิปที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหรือเตรียมล้มเลิกมูลนิธิแต่อย่างใด
กัน จอมพลัง กล่าวว่า มูลนิธิดังกล่าวก่อตั้งขึ้นก่อนช่วงก่อนเกิดเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม โดยในขณะนั้นได้รับคำแนะนำด้านเอกสารและขั้นตอนจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะผู้มีประสบการณ์ด้านการช่วยเหลือสังคม ตอนนั้นเราก็ทำตามขั้นตอนระเบียบที่มีอยู่ ไม่ได้คิดว่าจะมีวันนี้ หรือคิดว่าจะต้องเลิกมูลนิธิ จึงใส่ชื่อไว้ตามแบบฟอร์มที่แนะนำมา
ณวัฒน์ โพสต์เซ็งโอน 5 หมื่น คิดว่าเป็นมูลนิธิของกัน สรุปเป็นของคนอื่น – คนดีวีรบุรุษ ตอนจบคือคนร้าย
ณวัฒน์ อิสรไกรศีล หัวเรือใหญ่ MGI และ เจ้าของตำแหน่ง Executive Director ของเวทีการประกวด มิสยูนิเวิร์ส โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กล่าสุดว่า พลอตละครหลังข่าว เริ่มเรื่องเป็นคนดีวีรบุรุษ ตอนจบคือคนร้ายจอมวางแผน
“ผมโอนช่วยกัน 50,000 เพราะ คิดว่าเป็นของกันสรุปมูลนิธิเป็นของคนอื่น ควรบอกก่อนให้คนโอน”
จากนั้นโพสต์อีกข้อความว่า “ข้อมูลชักจูงให้บริจาคเพราะเชื่อว่าเป็นของกันแล้วมันไม่ใช่อย่างนี้ ถือเป็นการหลอกลวงมั้ยครับ” อย่างไรก็ตามโพสต์ที่สองนี้ถูกลบไปแล้ว
ทั้งนี้ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ กัน จอมพลัง บอกว่า “ผมเป็นผู้ก่อตั้ง ชื่อก็เป็นคนคิด และการที่มูลนิธิจะใช้ชื่อผมได้ การที่ผมไม่ได้เป็นชื่่อเป็นประธานหรือกรรมการ ไม่ได้ผิดกฎหมายนะ ถ้าวันนี้ กัน จอมพลัง ยังอยู่ตรงนี้ สมมุติผมตุยไป คนที่มารับเป็นประธานกรรมการคือไม่โปร่งใสเลยหรอ วันนึงที่ผมไม่มีผมอยู่แล้ว ก็ยังช่วยคนได้ต่อไป ความตั้งใจคือเป็นแบบนี้ องค์กรต้องใช้ระบบเป็นควบคุม ต้องเป็นคนชำนาญบริหารองค์กรให้เดินหน้าได้ แค่ผมลงพื้นที่ก็หมดเวลาแล้ว อย่างตอนนี้


ช็อก มูลนิธิ ธรรมนัสฯ รับมรดกมาจาก มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้
มีรายงานข่าวว่า มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ที่ทำให้หลายคน ยิ่งสงสัย เกี่ยวกับมูลนิธิฯ นั่นก็คือ ข้อบังคับของมูลนิธิ ข้อ 39 ที่ เกี่ยวกับ กรณีมูลนิธิยกเลิก ทรัพย์สินทั้งหมด ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ “มูลนิธิ ธรรมนัส พรหมเผ่า”