วันที่ 15 เมษายน 2567 จากเฟซบุ๊กของญาติผู้เสียหาย โพสต์คลิปวิดีโอและภาพบาดแผลที่ญาติตัวเองถูกทำร้ายร่างกาย โดยเขียนแคปชั่นว่า
“เกิดเหตุรุมทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์ราวๆเที่ยงคืนของใหม่พรานนกหลังจากกินส่งสงกรานด์ ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยว ทำให้คู่กรณีกิดความไม่พอใจ รุมทำร้ายร่างกาย รุ่นน้องผมจนได้รับบาดการบาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า โดนผู้ใหญ่ 3 คน กลุ่มเพื่อนรุ่นน้องจะเข้าไปช่วยห้าม กลับโดนคู่กรณีทำท่าจะใช้อาวุธมีดชี้หน้าแล้วขู่จะทำร้ายด้วยเป็นถึงผู้ใหญ่คาดว่าอายุราว 30+ ทั้งนั้น แต่รุมกระทีบเด็ก 17 ทำเกินกว่าเหตุไปไหมครับ ขอความกรุณาช่วยแชร์ให้ความเป็นธรรมกับหลานผมด้วยครับ น้องเพิ่งอายุ 17”
โดยผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนาย ญาณกร สีเคลือบ กล่าวว่า หลังจากที่รถเกิดการเฉี่ยวชนกัน ตนก็วิ่งเข้าไปดูคู่กรณีแล้ว แล้วทีนี้ก็เกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น แล้วสักพักตนก็ถูกคู่กรณีรุมทำร้าย แต่ตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยปอเต็กตึ้ง เพราะตอนนั้นตนเองก็กำลังถูกรุมทำร้ายอยู่ ส่วนที่มาแจ้งความในวันนี้ ตนเองก็อยากให้คู่กรณีมาขอโทษ และรับผิดชอบในสิ่งที่คู่กรณีทำกับตนเอาไว้ ส่วนในเรื่องของคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะดำเนินการทางด้านกฎหมาย กับทางคู่กรณี
ทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยัง สน.บางเสาธง ตำรวจบอกว่าได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว แต่เป็นเหตุคดีจราจรเกี่ยวพันเหตุทำร้ายร่างกายโดยจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำหลังจากนี้
คำให้สัมภาษณ์ฝั่งคู่กรณี
นอกจากนี้ทีมข่าวได้ไปสัมภาษณ์คู่กรณีที่ปรากฎในคลิป โดยผู้บาดเจ็บฝั่งคู่กรณีคือนายรุ่งโรจน์ มาหม่องโชค 28 ปี หรือ คนที่ใส่เสื้อกล้ามสีแดง ได้บอกว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์มาตามปกติหลังไปเล่นสงกรานต์มา แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นกลุ่มผู้บาดเจ็บจอดรถกันอยู่ริมฟุตบาตก่อนถึงทางขึ้นสะพาน แล้วจู่ๆก็ขับเบี่ยงเลนส์จากซ้ายมาขวา ตนเองที่ขับตรงมาก็เบรคไม่ทันจึงเฉี่ยวชนทำให้ตนเองล้มและแฟนก็ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย และหลังจากเฉี่ยวชนกันแล้วฝั่งคู่กรณีก็เหมือนจะขี่หลบหนี ทำให้เพื่อนต้องขี่ตามไปเอาตัวมาเคลียกัน แต่เมื่อมาถึงฝั่งคู่กรณีก็มาขอโทษแบบไม่เต็มใจและไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ทำให้ตนเองและเพื่อนโมโหจึงรุมทำร้ายไป
นายรุ่งโรจน์ ยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แน่นอนและไม่รู้ว่าคู่กรณีเป็นเยาวชนอีกด้วย พร้อมยอมรับว่า ตนและเพื่อนอาจะทำเกินกว่าเหตุที่ไปทำร้ายแต่คู่กรณีก็ไม่พยายามที่จะชดใช้หรือขอโทษ
และเมื่อตนเองไปทำแผลที่โรงพยาบาล ก็มีญาติของกลุ่มคู่กรณีตามไปด่าและต่อยทำร้ายพวกของตนที่โรงพยาบาล ทั้งที่ตนเองก็ไม่ได้สู้กลับ
ขณะที่นายไชยเชษฐ์ เกตุมีไชย 29 ปี เพื่อนของนายรุ่งโรจน์ ก็บอกว่า ตนเองเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ บอกว่าตนเองขี่ตามหลังมาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างว่า ฝั่งคู่กรณีขับเปลี่ยนเลนส์และชนเข้ากับเพื่อน พอชนเสร็จคู่กรณีก็พยายามจะหลบหนี ตนจึงรีบขี่ไปตามทันที เพื่อนำตัวมาเคลีย ยอมรับว่าโมโหและบันดาลโทสะไปจริงๆ และทางคู่กรณีมีโทรมาจะเคลียแต่ก็ไม่มา ส่วนถ้าคู่กรณีจะไปแจ้งความทำร้ายร่างกายก็ยอมปล่อยไปตามกระบวนการกฎหมายแต่ฝั่งตนเองก็จะเอาเรื่องที่มาชนจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน