ผอ.โรงพยาบาลรุดเยี่ยม 2 ช่างภาพ ถูกตนเองเมาแล้วขับพุ่งชน เผยเป่าแอลกอฮอล์ช้าเพราะอยากเจรจาก่อนวุ่นวาย
1 พ.ค. 68 เกิดเหตุระทึกช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผอ.โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ เมาแล้วขับซิ่งฟอร์จูนเนอร์พุ่งชนผู้ช่วยช่างภาพบาดเจ็บหนัก 2 ราย บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเอส เป็นช่างภาพอมรินทร์ทีวี และนายทศวรรษ ช่างภาพไทยรัฐทีวี ที่พากันเดินทางมาจากส่วนกลาง เพื่อทำข่าวงานสืบสานประเพณีบายศรียาวที่สุดในโลกที่ จ.ชัยภูมิ
อาการล่าสุดช่างภาพถูก ผอ.โรงพยาบาลเมาแล้วขับ พุ่งชน
นายทศวรรษ ช่างภาพไทยรัฐทีวีบาดเจ็บมีแผลที่บริเวณขา และกล้ามเนื้อ หัวเข่าได้รับผลกระทบกระเทือน
นายเอส ช่างภาพอมรินทร์ทีวี เจ็บแขนและซี่โครงมากที่สุด มีบาดแผลถลอกที่บริเวณข้อศอก อาการโดยรวมยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้

ลงโทษผอ.รพ.หนองบัวแดงเมาแล้วขับชนนักข่าว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า กรณีที่ ผอ.โรงพยาบาลหนองบัวแดง ขับรถชนทีมนักข่าวของไทยรัฐทีวีและอมรินทร์ทีวีที่กำลังไปสั่งข้าวบาดเจ็บสาหัส 2 คน ว่า ตนเองได้โทรศัพท์ไปหาผอ.โรงพยาบาลชัยภูมิที่ผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ให้ดูแลสื่อมวลชนที่บาดเจ็บอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องดำเนินการทางวินัยหรือไม่ เนื่องจากถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล มีความผิดชัดเจนและไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องวินัยจะทำเต็มที่ แต่ประเด็นสำคัญจะต้องให้ความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บ
เมื่อถามกรณีที่ทีมที่มากับผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวข่มขู่ทีมข่าวเรื่องการเป่าแอลกอฮอล์ถึงในห้องน้ำ ทั้งที่กระทรวงสาธารณสุข ย้ำมาตลอดว่าเมาแล้วห้ามขับ ถือว่ามีความผิดร้ายแรงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ร้ายแรง ตอนนี้ก็ต้องดำเนินการเต็มที่ขอให้สบายใจ เรื่องนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง

ผอ.โรงพยาบาล รุดเยี่ยม 2 ช่างภาพบาดเจ็บ
น.พ.พุทธา สมัดไชย ผอ.โรงพยาบาลหนองบัวแดง เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ เผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นสิ่งแรกที่กังวลเลยคือกลัวว่าจะมีคนเสียชีวิตจึงได้ลงจากรถไปดู แต่เมื่อเห็นว่าน้องปลอดภัยแล้วก็กังวลใจน้อยลง ส่วนตัวไม่ได้บาดเจ็บอะไร
“เมื่อคืนกลับไปนอนก็กังวลน้อยอยู่ พอตอนเช้าเห็นข่าวก็รู้สึกกังวลเหมือนกันว่าเราเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ถ้าเราป้องกันอุบัติเหตุได้ มันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่เรากลับทำให้มันเกิดซะเอง แล้วก็ดีใจที่ไม่มีคนเสียชีวิต หลังจากนี้คิดว่า น่าจะแก้ไขได้”
น.พ.พุทธา เผยอีกว่า ส่วนกรณีเป่าแอลกอฮอล์ล่าช้ากว่า 3 ชั่วโมงเพราะส่วนตัวรู้ตัวเองว่ามีอาการมึนเมาอยู่แล้ว แต่ถ้าสมมุติว่าไม่เป่าแอลกอฮอล์มันก็จะสามารถพูดคุยกันได้ แต่ถ้าเป่าไปแล้ว มันจะเป็นเรื่องที่คุยกันยากขึ้น
คลิปนาที ผอ.โรงพยาบาลเมาชนช่างภาพข่าว
ขอบคุณภาพ Phongsakorn Hongjun