ฆ่าหั่นศพแม่ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 17 ถนนท่าข้าม ซอย 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรมฆ่าหั่นศพอีกครั้ง โดยฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น.ได้ดำเนินการประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ารวบรวมพยานหลักฐานและทำการตรวจสอบวัตถุพยานเพิ่มเติม โดยมีการรื้อชักโครกภายในห้องน้ำจุดที่พบอวัยวะชิ้นเนื้อของผู้ตายซ้ำอีกครั้ง ใช้เวลานานประมาณ 30 นาที ก่อนเดินทางกลับ
มีรายงานแนวทางการสืบสวนล่าสุดขณะพบพยานซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับผู้ตายและบุตรชาย ให้ข้อมูลว่า ในช่วงหัวค่ำวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปั๊มน้ำของบ้านที่เกิดเหตุดังตลอดเวลา คล้ายกับมีการเปิดน้ำทิ้งไว้จนกระทั่งเสียงปั๊มน้ำสงบลงในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 25 พ.ย.และมีผู้มาพบศพเจ้าของบ้านถูกฆ่าหั่นยัดตู้เย็นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พยานคนเดียวกันยังระบุแม่ลูกคู่นี้มักมีเรื่องทะเบาะเบาะแว้งบ่นกันตามปกติแต่ไม่เคยมีเหตุถึงขั้นรุนแรงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ในส่วนของการพบศพทีแรกซึ่งมี น.ส.วรนุช วงษ์ชัย อายุ 35 ปี เพื่อนสนิทผู้ตาย ที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานธุรกิจไฟแนนซ์และเป็นหุ้นส่วนทำร้านเสริมสวยร่วมกัน กับ นายบุญชัย ฐิติณรงค์ อายุ 42 ปี พนักงานส่งเอกสาร เดินทางเข้ามาพบนั้น ยังทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย เดินทางมาสมทบในจุดเกิดเหตุก่อนที่ นายศิระ สมเดช อายุ 20 ปี บุตรชายจะใช้ปืนแม่ตัวเองยิงตัวตายด้วย
เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ ด.ต.บุญคิด อธิราช หรือ ดาบหน่อง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (สายตรวจ) สน.ท่าข้าม เป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.วรนุช ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์และขอความช่วยเหลือจาก น.ส.วรนุช ขณะเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ ว่า ขอให้นำกำลังไปสนับสนุนที่บ้านเนื่องจากเชื่อว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับ น.ส.ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ที่สำคัญขณะนั้น นายศิระ บุตรชาย มีอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่งจะอ้างจะออกจากบ้านไปตามหาแม่ตลอดเวลา จากนั้น ดาบหน่อง ซึ่งไม่ได้เข้าเวรจึงรีบประสานสายตรวจ สน.ท่าข้าม ที่เข้าเวรอยู่ 2 นาย และรุดเดินทางไปตรวจสอบร่วมกัน โดยขณะที่ถึงบริเวณหน้าบ้านแต่ยังไม่ทันเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านนั้น ปรากฏว่า นายศิระ ได้เดินกลับเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต ในจังหวะเดียวกันกับที่ น.ส.วรนุช และ นายบุญชัย เปิดตู้เย็นพบศพ น.ส.ยุรีย์ ผู้ตายพอดี ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ตำรวจทั้ง 3 นายได้รายงานข้อเท็จจริงให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วและอยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนเรียกเข้าสอบปากคำประกอบสำนวนคดี