ประธานวุฒิสภา แจงเหตุ ส.ว. ลาประชุม โหวตเลือก นายกรัฐมนตรี – ขอความร่วมมือ ส.ว. หยุดแสดงความคิดเห็น ปม แก้ ม.272
วันนี้ (17 ก.ค. 66) ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา กล่าวชี้แจง กระแสข่าว กรณีการลาประชุมของสมาชิกวุฒิสภาระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนการประชุมวุฒิสภาว่า ขอชี้แจงใน 3 ประเด็น การลาประชุมของสมาชิกวุฒิสภา ตามรายงานการลาประชุม ซึ่งมีเหตุแก่การลา 3 ประเภท คือ
การไปราชการต่างประเทศของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งในเรื่องนี้ตนในฐานะประธานรัฐสภาขนาดนั้นได้มอบหมายให้สมาชิกวุฒิสภา 2 คนเดินทางเข้าร่วมประชุม ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการ AIPA
ส่วน การลากิจของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น ผู้นำเหล่าทัพ จำนวน 6 คน เนื่องจากติดราชการสำคัญประกอบกับการประชุมให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีเพียงวาระเดียว และผู้นำเหล่าทัพได้พิจารณาแล้วแจ้งว่ายังอยู่ในราชการจึงไม่ประสงค์เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ส่วน การลากิจของสมาชิกวุฒิสภาคนอื่นๆ มีจำนวน 9 คน ส่วนใหญ่เป็นภารกิจที่ไม่ทราบวันประชุมมาก่อน และยังอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากมีภารกิจ ที่นัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว การลาป่วย มีสมาชิกแจ้งลาป่วยจำนวน 16 คน ดังนั้นการลาของ สมาชิกวุฒิสภาจึงรวมกันทั้งสิ้น 33 คน
กรณีการลงมติ ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาไม่ลงมติจำนวน 43 คน เป็นสมาชิกที่แจ้งลา 33 คน จึงแสดงว่ามีสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม แต่ไม่ลงมติจำนวน 10 คน
สำหรับการที่มีบุคคลเข้าคุกคาม และละเมิดความเป็นส่วนตัวของสมาชิกวุฒิสภา และครอบครัว อาทิ การเข้าตรวจสอบสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ประกอบธุรกิจของบุคคล การใช้ถ้อยคำด่าทอไปยังบุคคลนั้นนั้น รวมถึงการข่มขู่ให้เกิดความกลัว ตนในฐานะประธานวุฒิสภา เห็นว่ามีหน้าที่ในการคุ้มครองดูแลสมาชิกวุฒิสภาทุกคนให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งตัวของสมาชิกและครอบครัว
จึงได้ขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยดูแลสมาชิก ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงหวังว่าประชาชนที่กระทำการลักษณะคุกคามโจมตีแทรกแซงบุคคลอื่น จะหยุดการกระทำนั้นลง เพราะ มีความเกี่ยวเนื่องกับความผิดทางอาญา
ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร ยังกล่าวถึง กรณีพรรคก้าวไกลยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่า สมาชิกวุฒิสภายังไม่สมควรแสดงความคิดเห็นโต้ตอบ กับการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเมื่อเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว สมาชิกจึงจะมีหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ไม่ควรโต้แย้งหรือโต้ตอบต่อผู้ที่อยู่ในสภาวะไม่พอใจเหตุการณ์ทางการเมือง เพื่อให้การแก้ไขกฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY