สืบเนื่องจากกรณี เพจเฟซบุ๊ก PattayaWatchdog ได้ทำการโพสต์รูปภาพ สิงโต ตัวหนึ่งกำลังเดินอยู่ภายในหมู่บ้าน โดยมีวัยรุ่นชายเป็นผู้จูงเอาไว้ พร้อมระบุข้อมูลว่า “#ของแทร่ เพื่อนบ้านผวา สิงโตตัวใหญ่หลุดออกมาเดินบนถนน หลายครั้งแล้ว แจ้งตำรวจเรื่องเงียบ กลัวว่าต่อไปจะอันตรายกับสัตว์เลี้ยงและประชาชน”
แต่ทั้งนี้ เรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สิงโตพัทยา เคสชาวต่างชาติพาสิงโตนั่งรถหรู เที่ยวเมืองพัทยาจนเป็นไวรัลนั้น แต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงตรวจสอบที่ ซอยเขามะกอก 13 หมู่ 4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่มีการเลี้ยงสิงโต เบื้องต้น พบว่า มี 2 ตัว
สิงโตเพศผู้ ( สิงโตสีน้ำตาล ) ชื่อว่า อาลัว
สิงโตเพศเมีย ( สิงโตขาว ) ชื่อว่า หลินหลิน
โดยเจ้าของ นางสาวเอ นามสมมติ อายุ 28 ปี ได้นำแสดงการรับมอบสิงโต จากฟาร์มกระป๋องสี ไลออน ฟาร์ม จ.นครปฐม มาแสดงยืนยัน แต่เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบ ปรากฏว่า ไมโครชิพ ไม่ตรงกัน และ เจ้าของยังไม่มีการไปแจ้ง ครอบครองให้ถูกต้องตามกฏระเบียบ การครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก. ( สิงโต ) เจ้าหน้ามีการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้ง ขออายัดสิงโตทั้ง 2 ตัว โดยจะต้องทำการยิงยาสลบ เพื่อทำการเคลื่อนย้าย
เจ้าของสิงโต เริ่มมีท่าทีที่อ่อนลง โดยสาเหตุที่ไม่ยอมให้ยิงยาสลบเพราะกลัวสิงโตจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ประกอบกับเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กจึงไม่อยากเห็นสัตว์เลี้ยงทรมาน และ อยากให้เจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนวิธีในการของเคลื่อนย้าย ประกอบกับเรื่องสถานที่ ที่จะมีการนำ สิงโตไปเก็บ จะได้รับการดูแลอย่างดีหรือไม่ทำให้เจ้าของเกิดความกังวลต่างๆ นานา แต่พอเข้าไปแนะนำ ทำให้เจ้าตัว เริ่มมีท่าทีอ่อนลงและยอมให้เจ้าที่เคลื่อนย้าย