ผู้ว่าฯ ราชบุรี เตรียมบิ๊กคลีนนิ่งครั้งใหญ่ เติมคลอลีนฆ่าเชื้อในน้ำปะปา หลังพบ เชื้อโนโรไวรัส ระบาดในเด็กอนุบาล ท้องเสีย-อาหารเป็นพิษ โร่นำส่งรพ.กว่า 500 คน
วันนี้ (6 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ เด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงต้องทยอยนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งของรัฐและ โรงพยาบาลเอกชน โดยสงสัยว่าจะเป็นโรคอาหารเป็นพิษรวมแล้ว จำนวน 517 ราย จากจำนวนเด็กในโรงเรียน 3,000 กว่าคน โดยเด็กเริ่มมีอาการอาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลวบางส่วนมีไข้ และเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ มาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. หลังจากนั้นทีมกรมควบคุมโรค โรงพยาบาลราชบุรี ได้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมเก็บตัวอย่างอาหารและน้ำ เพื่อสุ่มหาโรค ผลการตรวจเบื้องต้นพบเชื้อ Norovirus (โนโรไวรัส) ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.
ล่าสุด นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทินายไพรัช มโนสารโสภณ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการพิเศษ (ด้านการส่งเสริมพัฒนา), รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี, นายรณภพ เวียงสิมมา นายอำเภอเมือง และ นางปราณี ทัยคุปต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลราชบุรี เพื่อเข้ามาตรวจสอบและเร่งแก้ไข้ปัญหาโดยด่วน
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า อาการเบื้องต้นของเด็กที่ป่วยเริ่มลดลง ส่วนการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินอาหารจากเชื้อโนโรไวรัสนั้น ทีมสืบสวนโรคก็ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมให้คำแนะนำกับโรงเรียน รวมทั้งมีการทำความสะอาด และได้สั่งหยุดนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ที่พบว่ายังมีการแพร่ระบาดอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเช้าวันนี้ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกันหลายหน่วยงาน โดยช่วงเที่ยงวันนี้จะระดมจิตอาสารณรงค์ทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ครั้งใหญ่ที่โรงเรียนอนุบาลราชบุรี ตลอดทั้งบ่ายวันนี้ ถ้ายังไม่ครบถ้วนอีก ในวันเสาร์ก็จะดำเนินการกันต่อ
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้หน่วยงานการประปาส่วนภูมิภาค เทศบาลเมืองราชบุรี ประปาหมู่บ้าน พิจารณาเพิ่มเติมคลอรีนในน้ำประปาให้เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ โดยให้อยู่ในสัดส่วนที่ทางสาธารณสุขแนะนำ รวมทั้งจะประสานไปยังสถานศึกษา สถานประกอบการต่างๆ หน่วยราชการที่มีการติดต่อของประชาชนจำนวนมาก ให้ทำการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ทำความสะอาด เนื่องจากเชื้อโรคตัวนี้ค่อนข้างจะตายยาก แพร่ระบาดได้ง่าย ด้านความรุนแรงนั้นทางคุณหมอบอกไม่รุนแรงมาก ยกเว้นว่าเป็นเด็กน้อยผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ถ้าสูญเสียน้ำมาก จะไม่สามารถให้น้ำหรือสารเหลวทดแทนแล้วก็อาจจะมีอาการชักได้
อ่านข่าว Bright Today