อธิบดีปภ. เผยพายุโพดุลพ่นพิษ ปชช.เสียชีวิต 16 ราย เดือดร้อน 102,074 ครัวเรือน และยังมีพื้นที่ประสบภัย 10 จังหวัด
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “โพดุล” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน (5 ก.ย. 62 เวลา 06.00น.) ทำให้เกิดน้ำสถานการณ์ภัยในพื้นที่ 31 จังหวัด รวม 136 อำเภอ 515 ตำบล 2,654 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล 11 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 102,074 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 16 ราย (อำนาจเจริญ 4 ราย ร้อยเอ็ด 4 ราย ขอนแก่น 3 ราย พิจิตร 2 ราย อุบลราชธานี 1 ราย พิษณุโลก 1 ราย และมุกดาหาร 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (น่าน) ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (ชัยภูมิ) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร อำนาจเจริญ ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด และศรีษะเกษ อพยพประชาชนรวม 15 จุด 1,438 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัด (ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี)
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ พร้อมระดมวัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องส่งสูบน้ำระยะไกลเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประภัย โดยแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถและเรือท้องแบนเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยให้บริการขนย้ายสิ่งของและอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง อีกทั้งบางพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ซึ่ง ปภ. ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเตรียมสรรพกำลัง วัสดุอุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับ ความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
อ่านข่าว Bright Today