กองทัพอากาศ เปิดตัว เครื่องบิน F-5 TH อัพเกรดใหม่ พร้อม อากาศยานไร้คนขับ RTAF U1 จากมันสมองของคนไทย
ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานในพิธีบรรจุประจำการเครื่องบินขับไล่ F-5 TH จำนวน 14 ลำ และอากาศยานไร้คนขับแบบ RTAF U1 (อาร์-ที-เอ-เอฟ-ยู-วัน) โดยเครื่องบินขับไล่ F-5 ได้มีการปรับปรุงติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบ Avionics ที่ทันสมัย เป็นระบบป้องกันตนเอง และระบบเรดาร์ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับเป้าหมาย รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการใช้อาวุธสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำสูงยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation) ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link) เพื่อรองรับการใช้งานระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Link-T) เทียบเท่าเครื่องบินขับไล่ GRIPEN 39 C/D ในยุค 4.5 ทั้งนี้โครงการปรับปรุงทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยการพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อยืดอายุใช้งานได้ต่อไปอีก 15 ปี
นอกจากนี้กองทัพอากาศ ยังได้ร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศในการสนับสนุน และร่วมมือกันผลิต อากาศยานไร้คนขับแบบ RTAF U1 จำนวน 17 เครื่อง ซึ่งได้รับการออกแบบและผลิตตามมาตรฐาน รวมถึงข้อกำหนดความสมควรเดินอากาศสากล โดยสามารถปฏิบัติภารกิจได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง มีรัศมีปฏิบัติการ 100 กิโลเมตร และสามารถวิ่งขึ้นและร่อนลงสนามบินด้วยระบบอัตโนมัติ มีสมรรถนะ และขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทหาร และการปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากการทำสงครามอีกด้วย
พล.อ.อ.มานัต กล่าวว่า ทั้งสองโครงการทำด้วยมันสมองคนไทย โดยการอัพเกรด F-5 ครั้งนี้ได้ใช้ร่างกายเดิมของเขา แต่ใส่จิตวิญญาณของกองทัพอากาศเข้าไป ทุกอย่างมีการทำใหม่หมด ถ้าให้ต่างประเทศทำก็คาดว่าจะงบประมาณหลักหมื่นล้านบาท แต่กองทัพอากาศดำเนินการเองก็ใช้งบประมาณประมาณแค่หลักห้าพันล้านบาท โดยในอนาคตข้างหน้าจะมีสร้างนักบินรบ วิศวกรต้นแบบ รวมถึงวิศวกรซอฟแวร์ในกองทัพอากาศไทยขึ้น เพื่อคิดค้น ซอฟแวร์แอพพลิเคชั่นที่ฝังอยู่ในอากาศยาน โดยลงลึกถึงระดับ Source code หรือคำสั่งในโปรแกรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งใจให้ยืนอยู่บนขาของตัวเองให้ได้
ด้าน พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ กล่าวว่า UAV U1 ทำโดยคนไทย เกือบ 100% โดยใน อนาคตจะพัฒนาต่อยอด เพื่อทำหน้าที่ในด้านความมั่นคงอื่นๆ แนวคิดที่กองทัพอากาศวางไว้ ทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอด ของคนไทยด้วยกัน ยุทโธปกรณ์ปัจจุบันราคาสูง หากไม่คิดพัฒนาด้วยตนเอง ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ถ้าเราพัฒนาด้วยตนเองการใช้
น.อ.สุรศักดิ์ เสสะเวช ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการรบ สำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ กล่าวว่า เราทำซอฟแวร์ของเราด้วยสมองของคนในกองทัพอากาศ ด้วยวิศวกรคนไทยจะมีการติดตั้งจรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ แบบ IRIS-T ของเยอรมัน และเป็นครั้งแรกของโลกที่ F5ติดอาวุธนำวิถีแบบนี้ รวมถึง Python4 ของอิสราเอล นี่คือจิตวิญญาณ เราต้องการให้อาวุธนำวิถืทั้งสองชาติอยู่บน F5 มีแต่ชาติไทยที่ทำได้ เราก็เอาจิตวิญญาณ กริพเพน ที่มี เน็ตเวิร์ค เซนทริค ซึ่งเราก็เอาจิตวิญญาณมาพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการทางยุทธวิธีของเรา เช่นเดียวกับ U1 ซึ่งเรามี Aero star และ อากาศยานไร้คนขับอีกแบบที่เรากำลังจะเข้าประจำการ ก็ได้นำจิตวิญญาณ และ ความต้องการทางยุทธการ มาพัฒนาเครื่องที่เรามีอยู่