สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชี้แจงกรณีมีผู้พบ วัตถุประหลาด ในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 63 พบว่า มีชาวบ้านพากันค้นหาหินอุกกาบาตในพื้นที่ป่าชุมชนเขตติดต่อหมู่บ้านแม่สะต๊อก บ้านนาฮ่อง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งพบเห็นลำแสงพุ่งตกจากฟ้าลงมาในบริเวณดังกล่าว
ได้สันนิษฐานกันว่าเป็นอุกกาบาตและพากันออกตามหา ก่อนพบกับวัตถุประหลาดขนาดเท่าลูกฟุตบอล แต่เก็บไว้ไม่ได้เปิดเผยให้ใครทราบ จนกระทั่งมีข่าวแพร่สะพัดขึ้นมา ทางอำเภอแม่แจ่มจึงนำวัตถุดังกล่าวส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
จากหลักฐานที่รวบรวมได้ พบว่าวัตถุที่พบมีลักษณะเป็นรูพรุน น้ำหนักเบากว่าหินและโลหะทั่วไป รูปร่างคล้ายวัตถุที่ถูกเผาไหม้ด้วยความร้อนจนหลอมละลายแล้วเย็นตัวลง หลังจากสังเกตและวิเคราะห์ด้วยลักษณะทางกายภาพ เบื้องต้นคาดว่า ไม่ใช่หินอุกกาบาต
เนื่องจาก ลักษณะของอุกกาบาตจะไม่เป็นรูพรุน และอาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นหินประเภทหินอัคนีพุ (Extrusive Rock) หรือหินภูเขาไฟ (Volcanic Rock) ที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วในอดีต เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวาเหลวพวกที่มีไอน้ำ แก๊สและสารละลายอื่น ๆ ปนอยู่มาก เมื่อลาวาขึ้นมาบนผิวโลกและเย็นตัวลง ฟองแก๊สเหล่านี้จึงทำให้เกิดโพรง ดูเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ
นอกจากนี้ จากข้อมูลแผนที่ธรณีวิทยาของพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า หินอัคนีสามารถพบได้ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ด้วย
สำหรับประเด็นเรื่องลำแสงพุ่งตกจากฟ้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนั้น สถาบันดาราศาสตร์ คาดว่าเป็นดาวตก โดยปกติเราสามารถสังเกตเห็นดาวตกได้ในทุกคืน เนื่องจากในอวกาศมีเศษฝุ่นละอองที่ดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางเหลือทิ้งไว้ในวงโคจร เมื่อโลกโคจรตัดผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีเศษฝุ่นดังกล่าว จะดึงดูดเศษฝุ่นเหล่านี้เข้ามาในชั้นบรรยากาศ เกิดการลุกไหม้เป็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้า จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีโอกาสสังเกตเห็นได้
ที่มา : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์