จากกรณี 2 ต่างชาติ ลงไปดำน้ำที่ เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้ง ไล่จับสัตว์ทะเลเซลฟี่ หลากหลายชนิดมาถ่ายวิดีโอ ซึ่งการถ่ายวิดีโอดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ใช้ไม้เซลฟีเขี่ย-แหย่ปลา ในแนวปะการัง ทำให้สัตว์ตื่นและวิ่งหนี และจับสัตว์มาถ่ายเซลฟี่
นายสิทธิโรจน์ แก้วหนองเสม็ด กลุ่มพะงันซีการ์เดียน ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ท้องทะเลเกาะพะงัน ได้นำคลิปภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ในโลกโซเซียล จ้งเรื่องนี้ไปยังทางสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ
ต่อมาตำรวจได้ตามตัว 2 ชาวต่างชาติจนพบ คือ Mr. Attila Ott เป็นครูสอนดำน้ำ และเป็นเจ้าของร้านอาหารในเกาะพะงัน ส่วนอีก 1 คนชื่อ Mr. Francesco Simonetti เป็นพ่อครัว มีเรือ Speed boat และชอบพาลูกค้าร้านอาหารไปดำน้ำ
ทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นผู้บันทึกวิดีโอ บริเวณหาดสลัด เกาะพะงัน เผยแพร่ทางยูทูป โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแจ้งความ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุถูกกำหนดเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม การจับสัตว์ทะเล จะถูกปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ได้มีตรวจสอบใบอนุญาตสอนดำน้ำ รวมทั้งใบอนุญาตอื่นๆ ซึ่งจะตัดสิทธิ์การเป็นครูสอนดำน้ำ เพราะถือว่าเป็นการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมตรวจข้อมูลความผิดที่อาจมีและเกี่ยวข้องตามกฎหมายคนเข้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าการเข้าออกไทย การแจ้งที่พักอาศัย
ล่าสุด (3 ก.ย.63) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สั่งการอนุมัติเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของทั้งคู่ เนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อสังคม พร้อมกันนี้ได้นำตัวชาวต่างชาติ 2 รายดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลักดันออกนอกราชอาณาจักร