อาคารบอมเบย์เบอร์มา เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“ในที่สุด หลักฐานก็ปรากฏ” บรรลุ วัตถุประสงค์ของผู้จัดทำโครงการทุกประการ “บูรณาการการดำเนินงานร่วมกับจังหวัดแพร่ หน่วยงานในจังหวัดและท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองแพร่ อย่างต่อเนื่อง” ท่องเที่ยวแพร่ ดังแล้วไงครับ บรรลุวัตถุประสงค์ของท่านแล้ว ดีใจมั๊ยครับ
ผู้เสนอโครงการ นางกัญญารัตน์ ท่วมไธสง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
ผู้เห็นชอบโครงการ นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กระทรวงมหาดไทย
ผู้อนุมัติโครงการ นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กระทรวงมหาดไทย
ในพื้นที่ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่ ดูแลโดย นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ไม่ต้องรายงานการศึกษาความเหมาะสม มีรายการ รื้อถอน เพื่อสร้างใหม่แปลง่ายๆ ผู้ดูแลสถานที่ คือ กระทรวงทรัพย์เห็นว่า อาคารที่ดูแลอยู่เก่า ใช้ประโยชน์เป็นสำนักงานไม่สะดวก ก็เลยอยากได้ที่ทำงานใหม่ ก็เลยแอบแฝงเจตนาโดยร่วมมือกับท่องเที่ยวอ้างคำว่า “ท่องเที่ยว” ขอใช้งบผู้ว่า CEO เริ่มตั้งแต่ ปี 60 เสนอใช้งบประมาณ ใน ปี 63 รองผู้ว่าฯ ก็ผ่านเรื่อง ให้ผู้ว่าฯ เซ็นอนุมัติก็เท่านั้นเอง
ในที่สุด อาคารโบราณสถานในจังหวัดแพร่ บอมเบย์เบอร์ม่า อายุ 127 ปี ในแพร่เมืองเก่าอายุกว่า 1,200 ปี (เก่าแก่ที่สุดในล้านนา) ก็ถูกทำลาย โดยข้าราชการที่ไม่ได้เป็นคนจังหวัดแพร่ อยากได้อาคารใหม่ เพื่อเอาไว้เป็นสถานที่ทำงาน ยังมีโบราณสถานที่เป็นบ้านเก่าของเอกชนที่เขารักษา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เช่น บ้าน100 ปี บ้านวงค์บุรี ที่ประชาชน ขอเข้าไปเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย แต่อาคารโบราณสถานเก่าแก่ ที่อยู่ในมือส่วนราชการอีกหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ไม้สักแพร่ ภายในบริเวณโรงเรียนป่าไม้แพร่ กำแพงเมืองรูปหอยสังข์ แห่งเดียวของโลก ส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของกรมป่าไม้ กรมอุทยาน กระทรวงทรัพย์ บางส่วนอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย
สำหรับคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ โชคดีที่ดูแลโดย อบจ.แพร่ มีคนท้องถิ่น โดย นายอนุวัธ วงค์วรรณ เป็นผู้ดูแล ก็เลยยังสวยงามเป็นมิ่งขวัญให้คนไทยและคนจังหวัดแพร่ชื่นชมต่อไป
แต่อาคารโบราณสถานใน “แพร่เมืองเก่า 1,200 ปี” อีกจำนวนมากที่ถูกยึดอยู่ในมือส่วนราชการ จะทำอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย
โจทย์นี้ คงต้องขอให้คนไทยทุกคน ช่วยแสดงความคิดเห็นแล้วครับ ทุก 1 เสียงของท่านที่จะได้ช่วยกรุณาปกป้อง จะช่วยต่อชีวิตให้อาคารโบราณสถานอีกจำนวนมาก ได้ถูกรักษาเอาไว้เป็นสมบัติของลูกหลาน และเพื่อ “การท่องเที่ยวที่แท้จริง” ต่อไปได้ครับ”