เนื่องจากปีนี้ 2562 เป็นปีที่มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาให้พ้น ภัยแล้ง ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำหลายแหล่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อย กรมชลประทาน จึงดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำให้กับพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังได้รับรายงานจาก นายอดุลย์ จุมพิศ ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 3 ว่า จังหวัดพิจิตร หมวดปฏิบัติการสูบน้ำพิจิตร ฝ่ายปฏิบัติการสูบน้ำ และ ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลและยานพาหนะ ลำเรียงเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 เครื่อง เข้าติดตั้งในพื้นที่ บริเวณ หมู่ 2 และ หมู่ 5 ตำบลหนองหญ้าไทร อำเภอสากเหล็ก เพื่อทำการสูบน้ำส่งให้พื้นที่การเกษตรจำนวนกว่า 7,000 ไร่ ที่กำลังขาดแคลนน้ำ จังหวัดพิษณุโลก หมวดปฏิบัติการสูบน้ำพิษณุโลก
ฝ่ายปฏิบัติการสูบน้ำ และ ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลและยานพาหนะ ลำเรียงเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 เครื่อง เข้าทำการติดตั้งเพิ่มเติมจากเดิมที่ติดตั้งก่อนหน้านี้แล้ว จำนวน 2 เครื่อง รวมเป็น 4 เครื่อง เพื่อเพิ่มระยะการส่งน้ำจากสระน้ำบ้านหัวเมือง ส่งน้าเข้าสู่ระบบคลองจ่ายน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกข้าว ที่ข้าวอยู่ในช่วงตั้งท้อง
ในพื้นที่บ้านหัวเมือง หมู่ 9 ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดอุตรดิตถ์หมวดปฏิบัติการสูบน้ำอุตรดิตถ์
ฝ่ายปฏิบัติการสูบน้ำ และ ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลและยานพาหนะ ลำเรียงเครื่องสูบน้ำ ขนาด 6 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 เครื่อง เพื่อทำการสูบน้ำส่งให้กับพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปี จำนวนกว่า 109 ไร่ ในพื้นที่บริเวณบ้านวังแดง หมู่ 5 ตำบลหาดงิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งนี้ ได้ติดตั้ง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำ ให้กับพื้นที่ประสบปัญหา
เรียบร้อยแล้ว
ดร.ทวีศักดิ์ ฯ กล่าวต่อว่า กรมชลประทาน มีความเป็นห่วงพี่น้องเกษตรกร จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้พร้อมสำหรับเข้าให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือจะต้องดำเนินการตามแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้การปฏิบัติงานตามแผนฯ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
